SALEE พื้นฐานเปลี่ยนแต่ราคายังไม่รองรับ |
![]() |
![]() |
![]() |
Tuesday, 13 October 2009 09:51 | |||
ราคาหุ้นของ SALEE เมื่อปี 2550 ราคาได้ปรับขึ้นไปสูงกว่า 5 บาท/หุ้น ดัชนีหุ้นไทยอยู่ประมาณ 580 จุด แต่วันนี้ปัจจัยพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท เอสซี วาโด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SALEE ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 75% วันนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด มีกำลังการผลิตเต็มจนล้น ถึงกับต้องเพิ่มเครื่องจักร เพื่อรองรับการขยายตัวที่มีอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 2.80 บาท กับดัชนีหุ้นไทย 660 จุด ทำให้มองหุ้น SALEE น่าสนใจและติดตามอย่าได้คลาดสายตา อีกเหตุผลหนึ่งคือ นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ได้ตั้งเป้ารายได้ขยายตัว 5-10% หรือใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 929 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/2552 บริษัทฯได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่กำไรมีโอกาสดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 40.73 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 2/2552 กำไรเติบโตอย่างโดดเด่น ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ ทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2552 มีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดจากไตรมาส 2 เนื่องจากจะบันทึกกำไรก่อนหักภาษีจากการขายหุ้นบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด ให้กับบริษัท PAGO Holding AG (PAGO) มูลค่า 57 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งประกอบด้วยอลูมิเนียมและเม็ดพลาสติกที่ปรับลดลงอีกด้วยทำให้ Gross Margin เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 35-40% จากปี 2551 ที่ 25-30% นอกจากนี้ บริษัท เอสซี วาโด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SALEE ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 75% ปัจจุบันได้มีการผลิตเต็ม 100% ตามคำสั่งซื้อ จึงมีแผนซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่ม คือ เครื่องเจาะกลึงชิ้นงาน (CNC) จำนวน 10 เครื่อง และเครื่องฉีดอลูมิเนียมจำนวน 2 เครื่อง โดยใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนมาจากการกู้ยืมและจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ส่วนเครื่องจักรใหม่นั้น จะเริ่มเข้ามาในเดือนกันยายน 2552 และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2552 โดยจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนชิ้นต่อปี จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 3 แสนชิ้นต่อปี จากเหตุผลข้างต้น จะเห็นว่า SALEE ปัจจัยพื้นฐานได้มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมากนัก ในมุมมองของข่าวมองว่าการลงทุนในหุ้น SALEE ท่ามกลางเศรษฐกิจอยู่ในระหว่างฟื้นตัวมีความน่าสนใจ อีกทั้งการขยายกำลังการผลิตของ "เอสซี วาโด" ในธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัย เมื่อเทียบกับความต้องการโดยรวมทั่วโลก ประกอบกับผู้บริหารได้ป้องกันความเสี่ยงจากการขยายกำลังการผลิต โดยเพิ่มปริมาณไม่มาก และอยู่ในสถานะที่สามารถควบคุมได้ เมื่อเกิดวิกฤติของฤดูกาล จนถึงวิกฤติอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ธณพงศ์ มีทอง This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 1106 |
![]() | All days | 1106 |
Comments