ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง255.59จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 25 May 2023 08:19 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันพุธ (24 พ.ค.) ที่ 32,799.92 จุด ลดลง 255.59 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,115.24 จุด ลดลง 30.34 จุด หรือ -0.73% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,484.16 จุด ลดลง 76.08 จุด หรือ -0.61% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ที่ยังไม่มีความคืบหน้าอาจจะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และฉุดรั้งเศรษฐกิจให้อ่อนแอลงอีก แม้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสได้มีการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า ในขณะที่สหรัฐใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายของการผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้แต่อย่างใด เนื่องจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของอีกฝ่าย โดยปธน.ไบเดนบอกปัดข้อเรียกร้องของนายแมคคาร์ธีที่ต้องการให้ปรับลดงบประมาณรายจ่าย ขณะที่นายแมคคาร์ธีก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของปธน.ไบเดนที่ต้องการให้มีการเพิ่มรายได้ของรัฐบาลด้วยการปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากคนร่ำรวย อย่างไรก็ดี ตลาดลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความจำเป็นในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเริ่มมีน้อยลง โดยกรรมการหลายคนกล่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว นักลงทุนต่างก็คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 13-14 มิ.ย. นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนเม.ย. สำหรับในวันศุกร์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
|
![]() | Today | 38832 |
![]() | Yesterday | 94803 |
![]() | All days | 155399500 |
Comments