ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น1,351.62จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Friday, 27 March 2020 08:00 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) ที่ 22,552.17 จุด พุ่งขึ้น 1,351.62 จุด หรือ +6.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,630.07 จุด เพิ่มขึ้น 154.51 จุด หรือ +6.24% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,797.54 จุด เพิ่มขึ้น 413.24 จุด หรือ +5.60% ขานรับวุฒิสภาลงที่มติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเช่นกัน โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ วุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 96-0 เสียง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้ หากได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการอภิปราย และลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเช่นกัน ความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.28 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในช่วง 1-4 ล้านราย ส่วนตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 ล้านราย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อชาวอเมริกันผ่านทางรายการ "Today" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เฟดกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกัน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน พร้อมระบุว่านโยบายของเฟดจะมีความสำคัญอย่างมากขณะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น เพื่อให้การฟื้นตัวมีความแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
|
![]() | Today | 974 |
![]() | All days | 974 |
Comments