เปิดแนวทางการจัดตั้ง ‘ธนาคารพุทธบริษัท’ |
![]() |
![]() |
![]() |
Saturday, 12 July 2025 21:06 | |||
แนวทางการจัดตั้ง ‘ธนาคารพุทธบริษัท’ เพื่อแยกเงินออกจากพระสงฆ์ให้สอดคล้องกับพระธรรมวินัย: การประยุกต์แนวคิดการจัดการทรัพย์สินของข้าราชการการเมืองไทย 1. บทคัดย่อ ปัญหาการถือครองทรัพย์สินเกินจำเป็นของพระภิกษุทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันสงฆ์ บทความนี้เสนอโมเดล “ธนาคารพุทธบริษัท” ซึ่งแยกการบริหารเงินออกจากพระภิกษุโดยสิ้นเชิง แต่ยังคงหลักสมถะตามพระธรรมวินัย (พระวินัยปิฎก มหาวรรค 1.26–1.29) แนวคิดยืมกลไกจากระบบยื่นบัญชีทรัพย์สินและการกำกับดูแลผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมือง (พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561) มาปรับใช้ พร้อมเสนอเพดานรับถวายครั้งละไม่เกิน 3 000 บาท เพื่อปิดช่องว่างการสะสมทรัพย์และลดแรงจูงใจเชิงพาณิชย์ในกิจกรรมศาสนา 2. บทนำ ประเทศไทยมีผู้ถวายทรัพย์สินแก่พระสงฆ์ปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่ขาดกลไกตรวจสอบแบบสาธารณะ งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าปัญหาทางธรรมวินัยมักเริ่มจากการจัดการเงินที่ไม่โปร่งใส (เช่น สักการะ 2567; ไตรภาคี 2566) จึงเกิดแนวคิด “ธนาคารพุทธบริษัท (Buddhist Corporate Bank: BCB)” โดยให้คฤหัสถ์เป็นผู้ถือและบริหารทรัพย์แทนพระรูปใดรูปหนึ่ง 3. กรอบแนวคิด ประเด็น พระธรรมวินัย ระบบทรัพย์สินนักการเมือง การประยุกต์กับ BCB การไม่สะสมทรัพย์ ภิกษุรับเงินโดยตรงไม่ได้ (นิทานกฐิน) ห้ามรับของขวัญ > 3 000 บ. (ประกาศ ป.ป.ช.) กำหนดเพดาน 3 000 บ./ครั้ง แล้วเข้าบัญชีรวม ความโปร่งใส ให้วางอุโบสถิกสิขาบท (ทรัพย์ส่วนกลางวัด) ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินภายใน 30 วันหลังเข้ารับตำแหน่ง BCB เปิดงบฯ รายเดือนบนเว็บไซต์ “Open Sangha Data” การตรวจสอบ สังฆสามัคคีว่าด้วยอธิกรณ์ ป.ป.ช., สื่อมวลชน คณะกรรมการตรวจสอบอิสระ 9 คน (คฤหัสถ์ 7 สงฆ์ 2) 4. รูปแบบองค์กร “ธนาคารพุทธบริษัท” สถานะนิติบุคคลไม่แสวงกำไร ภายใต้ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารทรัพย์สินศาสนทายาท พ.ศ. … คณะกรรมการ BCB ประธาน (เลือกจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินที่นับถือพุทธ) กรรมการสงฆ์ 2 รูป (ไม่ดำรงตำแหน่งบริหาร) กรรมการคฤหัสถ์ 6 คน (ตัวแทนชุมชน–ผู้ตรวจสอบบัญชี–นักกฎหมาย) แหล่งเงิน เงินและทรัพย์สินถวายพระ/วัดทุกประเภทเกิน 3 000 บ. ดอกผลจากเงินกองกลาง (ลงทุนเฉพาะตราสารเสี่ยงต่ำ—พันธบัตรรัฐบาล พุธบอนด์) กลไกเบิกจ่าย พระสงฆ์เบิกได้เฉพาะ 4 ปัจจัย ตามมาตรฐานกรมการศาสนา ค่าครองชีพส่วนบุคคลต่อรูป ≤ 7 500 บ./เดือน (เทียบค่าเฉลี่ยครองชีพต่ำสุด ก.พ. 2568) รายการเบิกอื่นต้องมีมติ 2⁄3 ของคณะกรรมการ 5. ขั้นตอนดำเนินการ ลำดับ กิจกรรม ระยะเวลา (เดือน) 1 ร่าง พ.ร.บ.การบริหารทรัพย์สินศาสนทายาท 0–6 2 จัดตั้งสำนักงานชั่วคราว + ระบบบัญชีดิจิทัล (Blockchain permissioned) 4–12 3 นำร่องในวัดราชการระดับ “พระอารามหลวง” 5 แห่ง 12–24 4 ประเมินผล (ตัวชี้วัด: ดัชนีศรัทธา, ความโปร่งใส, คดีวินัย) 24–30 5 ขยายสู่ระดับจังหวัด + เครือข่ายวัดชุมชน 30+ 6. ประเด็นทางกฎหมายและจริยธรรม การกำหนดเพดาน 3 000 บาท สอดคล้องหลัก ไม่ให้เกิด “ความผูกใจ” ระหว่างผู้ให้-ผู้รับ (สังคหวัตถุ) และเลี่ยงข้อห้ามของ ป.ป.ช. การริบทรัพย์เมื่อผิดวินัยร้ายแรง ต้องอาศัยอำนาจศาลยุติธรรมคู่ขนานกับศาลสงฆ์ เพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชนผู้ถวาย สิทธิความเป็นส่วนตัวพระสงฆ์ เปิดเผยเฉพาะยอดรวม – ไม่แสดงบัญชีรายจ่ายส่วนบุคคลเว้นกรณีจำเป็นตามกฎหมาย 7. ผลประโยชน์ที่คาดหวัง ศรัทธาเพิ่ม เพราะเห็นข้อมูลการเงินแบบเรียลไทม์ ลดคดีสงฆ์ จากการสะสมทรัพย์หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ระบบ Welfare ภายในคณะสงฆ์ สามารถสร้าง “กองทุนสังคมสงเคราะห์พระภิกษุอาพาธ” โดยไม่ต้องพึ่งเงินบริจาคเฉพาะกิจ 8. อุปสรรคและข้อเสนอแนะ ประเด็นท้าทาย ข้อเสนอ ความต้านทานภายในวัด จัดเวที “สังฆเสวนา” ร่วมกับมหาเถรสมาคมและภาคประชาสังคม ปัญหากฎหมายภาษี เสนอแก้ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ มาตรา 47(7) ยกเว้นภาษีดอกผลที่นำกลับเพื่อสาธารณะ ต้นทุนเทคโนโลยี ใช้แพลตฟอร์ม GovTech ของคลัง + Sandbox สกสว. 9. สรุป “ธนาคารพุทธบริษัท” เป็นโมเดลจัดการทรัพย์สงฆ์เชิงระบบที่ผสานพระธรรมวินัยกับหลักธรรมาภิบาลสมัยใหม่ การกำหนดเพดานรับทรัพย์ 3 000 บาท + บัญชีรวมที่ตรวจสอบได้ จะลดความเสี่ยงด้านผลประโยชน์ทับซ้อนและรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันสงฆ์ บทความแนะนำให้รัฐร่วมมือกับมหาเถรสมาคมและภาคประชาสังคม ผลักดันกฎหมายต้นแบบและนำร่องก่อนขยายสู่ระดับประเทศ เพื่อให้พระพุทธศาสนาไทยก้าวสู่ศตวรรษใหม่อย่างโปร่งใส ยั่งยืน และสอดคล้องเจตนารมณ์ของพระธรรมวินัยอย่างแท้จริง ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 1352 |
![]() | All days | 1352 |
Comments