Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Hot News แอล ดับเบิลยู เอส เปิด 3 ทำเลทอง ที่ต่างชาติสนใจซื้อ และ เช่า
แอล ดับเบิลยู เอส เปิด 3 ทำเลทอง ที่ต่างชาติสนใจซื้อ และ เช่า PDF Print E-mail
Tuesday, 28 October 2025 21:45

แอล ดับเบิลยู เอสฯ ระบุ อโศก-พร้อมพงษ์​, รัชดา-พระราม 9, สีลม-สาทร เป็น 3 ทำเลทองในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาซื้อ และ เช่า เพื่ออยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ผลสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน 2568 จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด 446 คน โดยการส่งแบบสอบถามทางออนไลน์ และการลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่สุขุมวิท พร้อมพงษ์ และสาทร โดยเจาะกลุ่มนักธุรกิจ และคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสนใจที่จะอยู่อาศัยในพื้นที่ในเมืองที่เดินทางสะดวกใกล้แนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ใกล้สถานที่ทำงาน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบถ้วน เช่น ร้านอาหาร ศูนย์การค้า และโรงพยาบาล โดย 3 ทำเลแรกที่ผู้ตอบแบบสอบถามชาวต่างชาติ นิยมเลือกที่จะซื้อ หรือเช่า ได้แก่ อโศก-พร้อมพงษ์,รัชดา-พระราม 9 และสีลม-สาทร โดยทั้ง 3 ทำเลต่างมีจุดร่วมที่สำคัญ คือการเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์คนเมือง พร้อมอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวต่างชาติได้อย่างดี

จากผลการสำรวจพบว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย 5 ประเทศแรกที่ตอบแบบสอบถามเป็นญี่ปุ่น สิงค์โปร์ อังกฤษ จีน และสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 46% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ที่เหลือได้แก่ ออสเตรเลีย พม่า ฝรั่งเศส อินเดีย เยอรมณี สวีเดน เกาหลีใต้ ไต้หวัน รัสเซีย และฮ่องกง เป็นกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 36 ถึง 45 ปี คิดเป็นสัดส่วน 49% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ถัดมาจะมีอายุระหว่าง 55 ปีขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วน 17% และ อายุระหว่าง 25-35 ปี คิดเป็นสัดส่วน 16% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด

วัตถุประสงค์ในการอยู่อาศัยในประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วนกว่า 67% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด เพื่อเข้ามาทำงานและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาในการอยู่อาศัยเฉลี่ย 5-10 นอกจากการเข้ามาอยู่อาศัยเพื่อการทำงานแล้ว ในจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามคิดเป็นสัดส่วน 15% ต้องการมาอยู่อาศัยอย่างถาวรหลังจากเกษียณจากการทำงาน

ภูเก็ต-เชียงใหม่-พัทยา มาแรง

นอกจาก 3 ทำเลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติแล้ว จากผลการสำรวจยังพบว่า ชาวต่างชาติยังให้ความสนใจในการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด จากผลการสำรวจพบว่า ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยาเป็น 3 จังหวัด ที่ได้รับความสนใจจากต่างชาติ  เป็นอันดับต้นๆ รองจาก กรุงเทพมหานคร โดยมีสัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่สนใจซื้อ หรือ เช่าที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คิดเป็นสัดส่วน 9% ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดตามมาด้วยจังหวัดเชียงใหม่คิดเป็นสัดส่วน 7% และ พัทยา คิดเป็นสัดส่วน 5% ที่เหลือกระจายไปในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี เกาะสมุย ระยอง หัวหิน ปทุมธานี เชียงรายและหาดใหญ่ เหตุผลสำคัญในการสนใจซื้อ หรือ เช่า ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ต่างจังหวัด มีทั้งเป็นแหล่งงาน อาทิ ในพื้นที่จังหวัด ระยอง ชลบุรี ที่มีพื้นที่ใกล้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)ในขณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ และ เกาะสมุย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย เป็นทำเลที่ชาวต่างชาติ สนใจซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อการเกษียณอายุ

เช่า มากกว่า ซื้อ

จากผลการสำรวจพบว่า ชาวต่างชาติในกลุ่มที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเลือก การเช่ามากกว่าซื้อ โดยจากผลการสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามคิดเป็นสัดส่วน 54% เลือกที่จะเช่ามากกว่าที่จะซื้อเพราะระยะเวลาในการอยู่อาศัยในประเทศไทยอยู่เพียง 5-10 ปี อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มที่ต้องการซื้อ คิดเป็นสัดส่วน 46% มีทั้งกลุ่มที่เป็นวัยทำงาน และ กลุ่มที่เกษียณอายุ และมีครอบครัวอยู่ในประเทศไทย

คอนโดมิเนียม มาแรง

สำหรับประเภทที่อยู่อาศัยที่ชาวต่างชาติ เลือกในการเช่า หรือซื้อ จากผลการสำรวจพบว่า 61% เลือกที่จะเช่า หรือ ซื้อ คอนโดมิเนียม มากกว่า บ้านพักอาศัย อาจจะด้วยข้อจำกัดในการเป็นเจ้าของที่ดินของชาวต่างชาติในประเทศไทย ทำให้ชาวต่างชาติเลือกที่จะเช่าหรือซื้อ คอนโดมิเนียม มากกว่า บ้านพักอาศัย อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามในสัดส่วน 39% เลือกที่จะซื้อบ้านพักอาศัย เนื่องจากบางส่วนเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มีครอบครัวเป็นคนไทยที่สามารถใช้สิทธิของสมาชิกในครอบครัวในการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทบ้านพักอาศัยได้โดยรูปแบบของบ้านพักอาศัยที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจจะเป็นบ้านพักอาศัยรูปแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

สำหรับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจซื้อจะอยู่ที่ระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาท ไปจนถึงไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับห้องชุดขนาดตั้งแต่ 30-100 ตารางเมตร ในแบบ 1-2 ห้องนอน และค่าเช่าเฉลี่ยที่ระดับราคา 10,000-30,000 บาทต่อเดือน โดยพื้นที่ภายในต้องมีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องทำงานตอบโจทย์การ Remote Working ห้องรับแขก ห้องครัว และระเบียงที่กว้างเพียงพอสำหรับพักผ่อน ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียม จะถูกใจในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพและการพักผ่อนเป็นหลัก อย่าง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวน และเล้าจน์พักผ่อน สิ่งที่น่าสังเกตคือชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับโครงการที่เป็นแบบ Pet-Friendly เนื่องจากไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ด้วยหรือไม่ต้องการภาระเพิ่มเติมในการดูแล

“จากผลการสำรวจจะเห็นได้ว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติในประเทศไทย จะให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบทำเลที่พักอาศัย และ ให้ความสำคัญกับที่พักอาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และ ต่างชาติ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัย เมื่อเทียบกับกำลังซื้อภายในประเทศที่ชะลอตัวจากความผันผวนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจไทย จึงเป็นโอกาสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จะพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์กับความต้องการของชาวต่างชาติ ในทำเลที่ตอบโจทย์กับความต้องการ เพื่อสร้างกำลังซื้อใหม่เข้ามาสู่ตลาด” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

+++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday617
mod_vvisit_counterAll days617

We have: 616 guests online
Your IP: 216.73.216.22
Mozilla 5.0, 
Today: Oct 29, 2025

8213544