BGC พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก18ต.ค.นี้ |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 18 October 2018 05:41 | |||
บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BG Container Glass Public Company Limited) (“บริษัทฯ” หรือ “BGC”) และบริษัทย่อย นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “BGC”) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัทฯ”) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้า ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วที่จังหวัดปทุมธานี ขอนแก่น ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วและเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้มีกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 400 ตันต่อวัน รวมเป็น 3,495 ตันต่อวัน เพื่อรองรับการขยายตลาดในประเทศและส่งออก เช่น ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป และการผลิตสินค้าที่หลากหลาย นอกจากนี้โรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรียังสามารถขยายจำนวนเตาหลอมแก้วได้อีกในอนาคตเพื่อตอบสนองความต้องการใช้สินค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2561) มีกำไรสุทธิ 270.1 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.7 ล้านบาทหรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 122.0 สาเหตุหลักมาจากต้นทุนคงที่ปรับลดลงจากการย้ายฐานการผลิตจากโรงงานระยองที่ปิดตัว ไปยังเตาที่มีประสิทธิภาพการดำเนินงานเพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ “บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพในภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ โรงงานผลิต แห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีจะช่วยตอบโจทย์ในการขยายการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ในอนาคต โดยมองว่าโรงงานผลิตที่จังหวัดราชบุรีตั้งอยู่ในยุทธศาตร์ที่สำคัญ รวมทั้งมีกระบวนการผลิตที่ยืดหยุ่นซึ่งจะช่วยในการขยายลูกค้าและตลาดใหม่ของบริษัทฯ” นายศิลปรัตน์ กล่าว นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า BGC เป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วที่มีกำลังการผลิตมากที่สุดในประเทศไทย จึงมีความได้เปรียบด้านการควบคุมต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีโรงงานที่กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด ส่งผลดีการบริหารต้นทุนโลจิสติกส์และการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบที่มีต้นทุนที่เหมาะสม “ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์แก้วเป็นสินค้าที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และคาดว่าจะมีความต้องการใช้สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำมารีไซเคิลใช้ใหม่ได้ 100% และซัพพลายในตลาดยังมีจำกัดเนื่องจากมีผู้ผลิตรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย” นายพงศ์ศักดิ์ กล่าว
|
![]() | Today | 1216 |
![]() | All days | 1216 |
Comments