Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Wednesday, 21 March 2018 10:51

สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศ

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี โดยมีเป้าหมายที่จะลงโทษจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากนี้ ยังมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอัตราการจ้างงานให้กับชาวอเมริกัน โดยรายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ ก่อนหน้านี้บรรดาที่ปรึกษาอาวุโสของปธน.ทรัมป์ได้เสนอแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้าหลายประเภทจากจีน ในวงเงิน 3 หมื่นล้าน ดอลลาร์ต่อปี แต่ปธน.ทรัมป์ต้องการให้เพิ่มวงเงินในการจัดเก็บภาษีจากจีนเป็น 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมาตรการนี้จะครอบคลุมสินค้านำเข้าจากจีนกว่า 100 รายการ ด้านกลุ่มบริษัทธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐจำนวน 25 แห่ง ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท คอสต์โค และเบสท์บาย ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) ออกรายงานระบุว่า เยอรมนีมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาแรงผลักดันทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยรายงานระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อซึ่งภาคอุตสาหกรรมได้รับในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันการบริโภคในภาคเอกชนในประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และการว่างงานในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ บุนเดสแบงก์ยังระบุว่า ภาคก่อสร้างจะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้นเพียง 2.7% ต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ การชะลอตัวของดัชนี CPI ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในพิธีปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ในวันอังคารที่ผ่านมาว่า ไม่มีกลยุทธ์หรือเล่ห์เหลี่ยมใดที่จะมาแบ่งแยกจีนออกจากกันได้ ปธน.สี กล่าวว่า ชาวจีนทุกคนพร้อมปกป้องอำนาจอธิปไตยของชาติ และตระหนักถึงการรวมชาติเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ปธน.สียังกล่าวอีกด้วยว่า หากมีใครต้องการใช้เล่ห์เหลี่ยมใดๆเพื่อทำให้จีนแตกแยกนั้น จะต้องพบกับการประณามและการลงโทษอย่างรุนแรง

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ว่า จะไม่มีใครเป็นผู้ชนะจากสงครามการค้า หากสงครามการค้าเกิดขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐ สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมีเป้าหมายที่จะลงโทษจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากนี้ ยังมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอัตราการจ้างงานให้กับชาวอเมริกัน  รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระงับการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations - OMO) ในวันอังคารที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง ธนาคารกลางจีนเปิดเผยทางเว็บไซต์ว่า "สภาพคล่องในระบบธนาคารที่ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงนั้น สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงการครบกำหนดไถ่ถอนของข้อตกลงการขายพันธบัตรโดยมีสัญญาซื้อคืน (reverse repo)" สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันนี้มีสัญญา reverse repo ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในวงเงิน 4 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 6.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จึงเท่ากับว่าสภาพคล่องในตลาดจะปรับตัวลงในจำนวนเดียวกัน

 

สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560 – กุมภาพันธ์ 2561) ว่า รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 908,210 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 4.5% สาเหตุมาจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 14,898 และ 14,884 ล้านบาท หรือ 30.0% และ 18.8% ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีรถยนต์ และรายได้อื่นของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ

 

ปัจจัยต่างประเทศ ( 21 มีนาคม 2561): ตามเวลาประเทศไทย

ประเทศ          ปัจจัย

อังกฤษ          - อัตราว่างงานเดือนม.ค.

USA            - ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2560

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

** (เช้าวันที่ 22 มี.ค. ตามเวลาประเทศไทย)   แถลงมติอัตราดอกเบี้ย

 

ปัจจัยในประเทศ

เวลา             ปัจจัย

21 มี.ค.         - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที่ 4        - กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 4        - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง

สัปดาห์ที่ 4        - สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันอังคาร (20 มี.ค.) เงินบาททรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันในวันอังคารและพุธซึ่งคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และคาดการณ์ว่ารายงานหลังการประชุมจะชี้ถึงแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น อย่างไรก็ดีช่วงนี้ประเด็นเรื่องความขัดแย้งการค้าระหว่างสหรัฐฯกับหลายประเทศโดยเฉพาะจีนและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายต่างประเทศและด้านความมั่นคงของรัฐบาลสหรัฐฯกดดันดอลลาร์สหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง

- ดอลลาร์/เยน วันอังคาร (20 มี.ค.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯวันที่ 20-21 มีนาคมนี้ซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูรายงาน Dot Plot หลังการประชุมซึ่งจะชี้แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในปีนี้และปีหน้า อย่างไรก็ดีประเด็นความเสี่ยงต่างๆทั้งเรื่องการเมืองสหรัฐฯและนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯยังกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

- ยูโร/ดอลลาร์ วันอังคาร (20 มี.ค.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่มีรายงานข่าวชี้ว่ากรรมการธนาคารกลางยุโรปเริ่มมีการถกกันในประเด็นที่ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วแค่ไหนและจะออกจากมาตรการ QE อย่างไรหลังจากในช่วง 3  ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางยุโรปได้ซื้อสินทรัพย์รวม 2.5 ล้านล้านยูโร ขณะที่เงินปอนด์ก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้เนื่องจากสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปตกลงกันได้ที่จะให้มีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 21 เดือนหลัง Brexit และมีความเป็นไปได้มากขึ้นในการหาทางออกของข้อขัดแย้งพรมแดนไอร์แลนด์เหนือระหว่าง UK กับ EU

 

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคาร (20 มี.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กสูงขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหุ้นเฟซบุ๊กที่ลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สองก็ได้ฉุดหุ้นโซเชียลมีเดียรายอื่นๆปรับตัวลงด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,727.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,716.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,364.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.27%

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันอังคาร (20 มี.ค.) ดัชนีนิกเกอิปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากการประชุมในวันนี้และเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดลดลง หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นนิวยอร์กลดลงเมื่อคืนนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 0.47% มาอยู่ที่ 21,380.97 ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ภายหลังจากที่การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 สิ้นสุดลงในวันนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 0.35% มาอยู่ที่ 3,290.64 นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 13 ในวันนี้ว่า จีนมีความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินเชิงระบบ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของจีนมีความแข็งแกร่ง ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 0.11% ปิดวันนี้ที่ 31,549.93

- ตลาดหุ้นไทย วันอังคาร ( 20 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯสองวันที่เริ่มในวันนี้ โดยวันนี้มีแรงซิ้อมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน วัสดุก่อสร้าง และมีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX  เพิ่ม 0.05 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 21 มี.ค. 2561

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday20463
mod_vvisit_counterYesterday36982
mod_vvisit_counterAll days167516522

We have: 670 guests online
Your IP: 3.17.150.89
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 24, 2024

10499904