สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย |
![]() |
![]() |
![]() |
Friday, 29 September 2017 09:38 | |||
Snapshot
สหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2560 ในการประมาณการครั้งสุดท้ายขยายตัว 3.1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.0% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 3.0% โดยการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ขยายตัว 3.3% ในไตรมาส 2 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการครั้งก่อน ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์นอกภาคที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านอุปกรณ์และโครงสร้างของภาคเอกชนนั้น ขยายตัว 6.7% ซึ่งชะลอตัวลงจากการประมาณการครั้งก่อนซึ่งระบุว่า ขยายตัว 6.9% ทั้งนี้ การขยายตัวโดยเฉลี่ยของเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 อยู่ที่ระดับ 2.1% ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้สั่งให้ยกเว้นการสั่งห้ามเดินเรือในเส้นทางที่เข้าถึงยังเปอร์โตริโก ซึ่งถูกพายุเฮอร์ริเคน"มาเรีย"พัดถล่มจนประชาชนหลายล้านคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขาดแคลนน้ำดื่ม และปัจจัยดำรงชีพพื้นฐานอื่นๆทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ได้สั่งการให้ยกเว้นคำสั่งห้ามเดินเรือในเส้นทางดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้มีการขนส่งปัจจัยบรรเทาทุกข์ถึงยังประชาชนในเปอร์โตริโกที่ขาดแคลนเชื้อเพลิง น้ำ และยากรักษาโรค หลังจากที่พายุพัดเข้าถล่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ถนนหนทางต่างๆก็ใช้งานไม่ได้ เพราะต้นไม้ที่ถูกพายุพัดจนโค่นลงมาปิดถนน รวมทั้งความเสียหายอันเนื่องมาจากเหตุน้ำท่วมด้วยเช่นกัน สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1% โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4% ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่เพิ่มขึ้น 12,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 272,000 ราย สูงกว่านักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 ราย อย่างไรก็ดี ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 134 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 ส่วนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่แบบถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 277,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2016 สำหรับยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ย. มีจำนวนลดลง 45,000 ราย อยู่ที่ระดับ 1.93 ล้านราย ทั้งนี้ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องอยู่ต่ำกว่า 2 ล้านราย เป็นสัปดาห์ที่ 24 ติดต่อกัน
ยุโรป: ยูโรโซน คณะกรรมาธิการยุโรป รายงานว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจยูโรโซนในเดือนกันยายนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 113 จากระดับ 111.9 ในเดือนสิงหาคม แม้ว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะระบุก่อนหน้านี้ว่า ECB จะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายเวลาในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนตุลาคม ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะยังคงสดใสในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ โดยภาคธุรกิจมีแนวโน้มว่า จะมีการลงทุนมากขึ้น ส่วนภาคครัวเรือนก็มีแนวโน้มว่า จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเช่นกัน
เยอรมนี สถาบันวิจัย GfK ระบุราคาสินค้าที่สูงขึ้น การคาดการณ์เรื่องรายได้ที่ลดลงและการเจรจาต่อรองที่มีแนวโน้มว่าจะยาวนานในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของเยอรมนีนั้น จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี โดย GfK คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจจะลดลง 0.1 จุด พร้อมกันนี้ GfK ได้สำรวจชาวเยอรมันประมาณ 2,000 คนในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งระหว่างวันที่ 1-15 ก.ย. โดยดัชนีที่ได้ปรับตัวขึ้นติดต่อกันมา 5 เดือนนั้น มาตรวัดการคาดการณ์เกี่ยวกับรายได้ก็ร่วงลง 8.7 จุด สู่ระดับ 52.7 โดยผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ถึงมุมมองที่เป็นลบมากยิ่งขึ้นในเรื่องของรายได้ในอนาคต
อังกฤษ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวในพิธีครบรอบ 20 ปีของการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้รับอิสรภาพในการกำหนดนโยบายทางการเงินจากฝ่ายการเมืองว่า การตลาดแบบเสรีเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นต้องยอมรับว่ายังมีผู้คนบางส่วนที่ไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมยังกล่าวด้วยว่า การที่ BoE มีอิสรภาพในการกำหนดนโยบายทางการเงินทำให้สามารถคงอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับต่ำได้ ขณะเดียวกัน การขาดดุลนั้นลดลงกว่าสองในสาม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเสียสละอันใหญ่หลวงของประชาชนเช่นกัน ส่งผลให้ผู้คนบางส่วนเริ่มหมดศรัทธาในตลาดเสรี
เอเชีย : จีน คณะกรรมาธิการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน (SASAC) เปิดเผยแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทเหล็กกล้าของรัฐบาลกลางจีนลดกำลังการผลิตลง 16.14 ล้านตัน ณ สิ้นเดือนส.ค.ขณะเดียวกัน กำลังการผลิตถ่านหินลดลง 55.1 ล้านตัน ส่วนผลกำไรของบริษัทของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้น 17.3% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ สู่ระดับ 9.766 แสนล้านหยวน (1.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นประกาศยุบสภาล่างแล้วในวันพฤหัสที่ 28 กันยายน 2560 และเป็นที่คาดกันว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นจะประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 22 ต.ค. ในขณะที่เขาพยายามรักษาอำนาจของเขา ถึงแม้ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากพรรคปาร์ตี้ ออฟ โฮป หรือพรรคแห่งความหวัง ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยมพรรคใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง นายอาเบะตั้งความหวังว่า การที่เขาได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จะช่วยให้รัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของเขายังคงครองเสียงข้างมากในสภาได้ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ทั้งนี้รัฐบาลผสมของเขาครองเสียงข้างมากแบบเด็ดขาดได้ถึง 2 ใน 3 ของสภาในปัจจุบัน นายอาเบะเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมที่กลับมาครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา สมาชิกฝ่ายค้านในรัฐสภาคว่ำบาตรการประชุมสภาในวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะที่มีการยุบสภา โดยการคว่ำบาตรนี้มีจุดประสงค์เพื่อคัดค้านนายอาเบะที่จะประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่ และก่อให้เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมืองในช่วงที่มีความตึงเครียดสูงกับเกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้ เกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนือจะดำเนินปฏิบัติการยั่วยุอีกในเดือนต.ค. ในช่วงที่ใกล้กับวันครบรอบการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และในช่วงที่จีนจัดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีน นายชุง อุย-ยอง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้ประชุมกับประธานาธิบดีมูน แจ-อินของเกาหลีใต้ในวันพฤหัสที่ผ่านมา โดยนายชุงกล่าวว่า เขาคาดว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะดำเนินการยั่วยุในช่วงใกล้วันที่ 10 ต.ค.และวันที่ 18 ต.ค. แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้ นายปาร์ค วาน-จู หัวหน้าโฆษกพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้กล่าวว่า "รายงานของนายชุงระบุอีกด้วยว่า มีความกังวลกันว่าอาจจะเกิดความขัดแย้งทางการทหารขึ้น โดยเป็นผลจากอุบัติเหตุ" ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า สหรัฐระบุถึงทางเลือกทางทหารและทางเลือกทางการทูต แต่เกาหลีใต้ไม่สามารถเผชิญกับสงครามได้อีก สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวข่มขู่อีกฝ่ายหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับโครงการการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้เปิดเผยว่า จะเสนอมาตรการลดหย่อนด้านภาษีและสินเชื่อให้แก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าที่จีนบังคับใช้เพื่อตอบโต้ต่อการที่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบในวงกว้างขึ้นจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียดขึ้น กระทรวงการคลังเกาหลีใต้เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนที่จะอนุญาตให้บริษัทที่จำหน่ายสินค้าแบบปลอดภาษี และผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจในจีนสามารถชะลอการนำส่งภาษีเงินได้ และภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นเวลาไม่เกิน 9 เดือน สหรัฐได้ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ในปีนี้เพื่อป้องกันจากขีปนาวุธพิสัยใกล้ของเกาหลีเหนือ และนั่นทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากจีน ซึ่งระบุว่า เรดาร์ที่ทรงอานุภาพของระบบนี้จะสามารถส่องเข้าไปในอาณาเขตของจีนได้ จีนได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรสินค้าของเกาหลีใต้ที่มีการซื้อขายในจีน ซึ่งทำให้เกิดแรงกดดันต่อฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีมูน แจ-อินให้ทำการช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของจีน
ไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มองเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสสูง ที่จะเติบโตได้ถึงระดับ 3.8% หลังการส่งออกขยายตัวสูง พร้อมทั้งคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ในไตรมาส 3/60 จะเติบโตได้มากกว่าไตรมาสก่อนหน้า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวในการแถลงข่าวว่าวันนี้ ถ้าโมเมนตัมของเศรษฐกิจยังเป็นอย่างนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จีดีพีจะถึง 3.8% ดูข้อมูลวันนี้โอกาสเป็นไปได้สูง เพราะส่งออกเดือนที่แล้วก็โต 13% กว่า อย่างไรก็ตาม สศค.จะปรับประมาณการเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในเดือนต.ค.นี้ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา สศค.คงคาดการณ์จีดีพีของไทยปี 60 เติบโต 3.6% แต่ปรับเพิ่มคาดการส่งออกปีนี้เป็นเติบโต 4.7% จากเดิมคาดโต 3.3% โดยมองการส่งออกยังเติบโตได้ดี แม้เงินบาทแข็งค่า และเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะดูแลความเคลื่อนไหวของเงินบาทได้ ขณะที่วานนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีในปี 60 เป็นเติบโต 3.8% จากเดิมคาดขยายตัว 3.5% พร้อมทั้งปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกปีนี้เป็นขยายตัว 8.0% จากเดิมคาดโต 5.0% โดย กนง.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกและการท่องเที่ยว ขณะที่มองการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออก ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ในวันจันทร์ที่ 2 ต.ค.เวลา 10.30 น. ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จะเปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา 10.30 น. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนก.ย. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 11 คนในผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า ดัชนี CPI ทั่วไปอาจเพิ่มขึ้น 0.45% ในเดือนก.ย. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.32% ในเดือนส.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงานและอาหารสด อาจเพิ่มขึ้น 0.50% ในเดือนก.ย. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.46% ในเดือนส.ค. ธปท.คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะเพื่มขึ้น 0.6% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่ากรอบเป้าหมายที่ 1-4% แต่ก็คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่กรอบดังกล่าวภายในกลางปีหน้า เมื่อวันพุธที่ 27 กันยายน 2560 ธปท.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ธปท.จะประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 8 พ.ย. และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ขณะเดียวกัน ผลสำรวจระบุว่า ดัชนี MPI อาจเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.73% ในเดือนก.ค.
Money Market - ดอลลาร์/บาท วันพฤหัส (28 กย.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เนื่องจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนก็มองในเชิงบวกเกี่ยวกับมาตรการลดภาษีของสหรัฐฯที่มีการเปิดเผยรายละเอียดแบบคร่าวๆออกมาเมื่อคืนนี้โดยยังไม่มีความชัดเจนว่าแผนดังกล่าวจะดำเนินไปอย่างไรโดยที่ไม่ทำให้สหรัฐฯมีการขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น หรือมีหนี้สาธารณะสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถผ่านสภาออกมาได้ในปีนี้ตามที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯต้องการหรือไม่ ขณะที่เรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ก็มีกำหนดถึงเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าขณะนี้จากมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯคาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปลายปีนี้แต่ปัจจัยเรื่องเพดานหนี้ และมาตรการลดภาษีดังกล่าวยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปว่าจะกลับมาส่งผลลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯหรือไม่ - ดอลลาร์/เยน วันพฤหัส (28 กย.) เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ดีช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐฯได้แรงหนุนมากขึ้นจากปัจจัยเรื่องการคาดการณ์แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ - ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส (28 กย.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้หลังจากยูโรอ่อนค่าติดต่อกันหลายวันที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้งเยอรมนีซึ่งการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
Capital Market - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัส (28 กย.)ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี ขณะที่ดัชนี S&P 500 ได้แรงหนุนจากหุ้นแมคโดนัลด์และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และนักลงทุนบางส่วนมีความหวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีความคืบหน้าในการปฏิรูปภาษี ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.18% สู่ระดับ 22,381.20, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.12% สู่ระดับ 2,510.06 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.19 จุด สู่ระดับ 6,453.45 - ตลาดหุ้นเอเซีย วันพฤหัส (28 กย.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 0.47% สู่ระดับ 20,363.11 โดยเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงนี้ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.15% มาอยู่ที่ระดับ 3,340.11 ขณะที่นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกนอกตลาด เพื่อรอดูข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาส 3 และนับถอยหลังช่วงวันหยุดยาวร่วมสัปดาห์เนื่องในวันชาติจีนที่จะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 0.80% สู่ระดับ 27,421.60 ส่วนดัชนีหุ้นเอช หรือหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดร่วงลง 1.5% มาอยู่ที่ 10,874.52 หุ้นกลุ่มการเงิน และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง แต่หุ้นกลุ่มบริการผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า หุ้นเหล่านี้จะได้รับอานิสงส์จากช่วงวันหยุดยาวร่วมสัปดาห์เนื่องในวันชาติจีนที่จะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์นี้ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากจะเดินทางมายังฮ่องกงในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อร้านอาหาร, โรงแรม และร้านค้า - ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 28 กย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้สูงขึ้นในช่วงเช้าก่อนที่จะปรับตัวลดลงหลังจากนั้น โดยวันนี้มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ปิโตรเคมี อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง พลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 3.91จุด
โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2560
|
![]() | Today | 1657 |
![]() | All days | 1657 |
Comments