Snapshot

สหรัฐอเมริกา

IHS Markit ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ เดือนกันยายนอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 54.6 จากระดับ 55.3 ในเดือนสิงหาคมโดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 53.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนสิงหคม แต่ดัชนี PMI ภาคบริการอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ระดับ 55.1 ลดลงจากระดับ 56.0 ในเดือนสิงหาคม

ยุโรป: ยูโรโซน

IHS Markit ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 56.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนสิงหาคม และยังทาสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 55.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.7 ในเดือนสิงหาคม และทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 58.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 57.4 ในเดือนสิงหาคม และทำสถิติสูงสุดในรอบ 79 เดือน ทั้ งนี้ Markit ระบุว่า กิจกรรมภาคธุรกิจยูโรโซนได้รับปัจจัยหนุนจากยอดคาสั่งซื้อใหม่ ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวลงก่อนหน้านั้น

เยอรมนี

IHS Markit ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของเยอรมนีเบื้องต้นในเดือนกันยายนขยายตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 77 เดือน ที่ระดับ 57.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 55.8 ในเดือนสิงหาคมโดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 77 เดือนที่ระดับ 60.6 จากระดับ 59.3 ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ระดับ 55.6 จากระดับ 53.5 ในเดือนสิงหาคม

ผล Exit polls บ่งชี้ว่า นางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 เมื่อวานนี้ แต่นางเมอร์เคลซึ่งเป็นผู้นำที่มีอำนาจมากที่สุดของยุโรปจะต้องบริหารพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสถียรภาพน้อยลงในรัฐสภาที่ประกอบด้วยหลายพรรค หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอสูญเสียเสียงสนับสนุนให้กับพรรคการเมืองขวาจัด

ฝรั่งเศส

สำนักงานสถิติฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสสองของปีนี้ ขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 และสอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้ นับเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัวในอัตรา 0.5% โดยทางสำนักงานสถิติคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสตลอดทั้งปีนี้จะขยายตัว 1.6%

IHS Markit ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศสเบื้องต้นเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 57.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 76 เดือน โดยดัชนี PMI ภาคการผลิต เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 77 เดือนที่ 56.0 จากระดับ 55.8 ในเดือนสิงหาคม ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่  57.1 จากระดับ 54.9 ในเดือสิงหาคม

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครองแห่งฝรั่งเศส ได้ลงนามในกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการปฏิรูปแรงงานเพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย แม้ว่ากลุ่มผู้คัดค้านการปฏิรูปแรงงานจำนวนกว่า 1 แสนคนทั่วประเทศได้ทำการชุมนุมประท้วงเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ นายมาครองได้ทำการแก้ไขกฎระเบียบแรงงาน โดยการทำให้บริษัทต่างๆมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการว่าจ้างพนักงาน หรือในการปลดพนักงาน และมีความเป็นอิสระมากขึ้นในการกำหนดค่าแรง และเงื่อนไขการจ้างงาน

อังกฤษ

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาว่าด้วยการที่อังกฤษได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยเธอหวังว่าจะสามารถโน้มน้าวสหภาพยุโรป (EU) ให้ยอมตกลงในการเจรจารอบนี้

เอเชีย : จีน

กระทรวงการคลังของจีนระบุว่า การตัดสินใจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส โกลบอล เรทติงส์ (S&P) ที่ลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของจีนลงสู่ระดับ A+ นั้น เป็น "การตัดสินใจผิด" ซึ่งไม่สนใจปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ และศักยภาพในการพัฒนาของเศรษฐกิจจีน เมื่อวันพฤหัสที่ 21 กันยายน S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของจีนลง 1 ขั้น สู่ระดับ A+ จาก AA- โดยระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจีน ก่อนที่สภาคองเกรสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะประชุมในเดือนหน้า กระทรวงการคลังของจีนระบุว่า จีนสามารถรักษาให้สินเชื่อขยายตัวอย่างเหมาะสมได้ และความพยายามของรัฐบาลเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินนั้นจะรับประกันเสถียรภาพของระบบการเงิน และความสามารถของจีนในการสนับสนุนเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีน

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ระบุว่า S&P จะใช้การลดลงอย่างแท้จริงของความเสี่ยงทางการเงินของจีนในอนาคต ไม่ใช่แค่เสถียรภาพในการพิจารณาการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในอนาคต  S&P ระบุว่า การใช้หยวนมากขึ้นในระดับนานาประเทศจะสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของจีนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ S&P มองไม่เห็นความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างอันดับความน่าเชื่อถือของจีนกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน แนวโน้มในระยะยาวของค่าเงินหยวนจะขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจ, อัตราการเปิดเสรีบัญชีทุน การพัฒนาเป็นสังคมเมืองของจีนจะกระตุ้นการกู้ยืมสินเชื่อจำนอง แม้ธนาคารดำเนินมาตรการจำกัดสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้านก็ตาม

ญี่ปุ่น

นายทาโระ อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ตัดสินใจที่จะเลื่อนกำหนดเวลาในการบรรลุเป้าหมายยอดเกินดุลงบประมาณเบื้องต้นออกไปจากปีงบประมาณ 2020 ซึ่งถือเป็นการปฏิเสธข่าวที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนจะทำเช่นนั้น อย่างไรก็ดี นายอาโสะกล่าวว่า เขาจำเป็นต้องคำนวณว่า ญี่ปุ่นจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้หรือไม่ ถ้าหากมีการนำรายได้จากการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาใช้เป็นทุนในโครงการด้านการศึกษา นายอาโสะกล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่มีแผนการที่จะออกพันธบัตรชดเชยยอดขาดดุล เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้เป็นงบประมาณด้านการศึกษาในอนาคต

นายอ๊อด เปอร์ เบรค หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประจาญี่ปุ่นกล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ควรจะดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการเงินขนานใหญ่ต่อไป และสื่อสารมากขึ้นว่า บีโอเจคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% อย่างไร เขากล่าวว่า บีโอเจอาจจะปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)เขากล่าวอีกว่า การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการควบคุมงบรายจ่ายด้านสวัสดิการสังคม เป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อเศรษฐกิจมากที่สุดในการบรรลุการปฏิรูปด้านการคลังในระยะกลาง

ฮ่องกง

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฮ่องกงลงจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ ในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2560  หลังจากที่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนเมื่อวันพฤหัส โดยมองเห็นความเกี่ยวข้องด้านสถาบันและการเมืองอย่างมากระหว่างจีน และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง S&P ได้ปรับเปลี่ยนแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฮ่องกงสู่มีเสถียรภาพ จากเชิงลบ

ไทย

รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาระบุว่า นักลงทุนตรึงสถานะซื้อสุทธิในสกุลเงินบาทของไทยไว้ที่ระดับเดิมในช่วงสองสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ย. แต่นักลงทุนปรับลดสถานะซื้อในสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และจากสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสำคัญกำลังปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ โพลล์นี้จัดทำจากการสอบถามความเห็นนักวิเคราะห์, เทรดเดอร์ และผู้จัดการกอง ทุนเป็นจำนวนรวมกัน 17 รายในวันที่ 19-21 ก.ย. ในบรรดาสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียนั้น นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวกมากที่สุดต่อสกุลเงินบาทของไทย ในขณะที่บาทยังคงแข็งค่า โดยได้รับแรงหนุนจากยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่แข็งแกร่งของไทย, จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเศรษฐกิจไทย และจากความกังวลที่ลดลงในเรื่องความเสี่ยงทางการเมือง

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เผยว่า จะเริ่มขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFF ได้ไม่เกินไตรมาสแรกของปี 61 หลังยังคงมีความล่าช่าในขั้นตอนของราชการ เขายังกล่าวในการเปิดงานสัปดาห์ประกันภัยและพิธีมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นประจำปี 2560 โดยชักจูงให้บริษัทประกันภัยมาลงทุนในกองทุนนี้ เพราะจะได้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตร เนื่องจากธุรกิจประกัน เป็นแหล่งสะสมเงินทุนระยะยาวของประเทศนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับ"รอยเตอร์" เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า รัฐบาลมีความตั้งใจจะออก TFF ให้ทันภายในปีนี้ แต่ขณะนี้ยังติดขัดระบบราชการ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง คาดว่าการขายหน่วยลงทุน TFF มูลค่าราว 4.4 หมื่นล้านบาท จะไม่ทันตามแผนในเดือนก.ย.นี้ โดยยังต้องรอขั้นตอนจากคณะกรรมการการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ซึ่งกทพ.จะนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการทางพิเศษ พระราม 3-ดาวคะนองวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E-W corridor ด้านตะวันออก

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุได้มอบ"การบ้าน"ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)เร่งดำเนินการให้เกิดโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ(ซับมารีน เคเบิ้ล) และโครงการจัดทำศูนย์ข้อมูล Big Data ภายในปี 61 โดยเสนอแนวคิดต่อนายกรัฐมนตรี ขอจัดประชุมวาระพิเศษ เพื่อเรียกทุกกระทรวงทบวงกรม ให้เร่งจัดทำ Big Data เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย เป็น ASEAN Digital Hub  เขากล่าวอีกว่าได้หารือกับนายกรัฐมนตรี โดยเสนอแนวคิดจัดประชุมวาระพิเศษ เรียกทุกกระทรวง เพื่อเดินหน้าเรื่อง Big Data ดำเนินการให้คืบหน้าภายใน 3 เดือน 6 เดือน ต้องรายงานความก้าวหน้าว่าคืบหน้าแค่ไหน  ขณะที่บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT), บมจ.ทีโอที และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) จะต้องเป็นหน่วยงานหลัก

Money Market

ดอลลาร์/บาท วันศุกร์ (22 กย.) เงินบาททรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่สอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นเอเซียที่ลดลงวันนี้เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือที่ยังไม่มีแนวโน้มจะผ่อนคลายลงและอาจจะหนักกว่าเดิมก็ได้เนื่องจากทั้งสหรัฐฯและเกาหลีเหนือยังไม่แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะเจรจากันและต่างก็พร้อมที่จะใช้ความรุนแรงมากขึ้น ขณะเดียวกันปัจจัยเรื่อง S&p ลดอันดับเครดิตของจีน ( long-term sovereign credit rating ) จาก AA- มาอยู่ที่ A+ เมื่อเย็นวันพฤหัสที่ 21 และลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฮ่องกงลงจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ ในเช้าวันศุกร์ที่ 22 ก็กดดันตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง รวมทั้งค่าเงินหยวนของจีนและค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อลลาร์/เยน วันศุกร์ (22 กย.) เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้เนื่องจากสถานการณ์เกาหลีเหนือกลับมาสร้างความวิตกต่อนักลงทุนเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ส่งผลให้ความต้องการเงินเยนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯที่มีแนวโน้มเข้มงวดมากขึ้นเมื่อเทียบกับธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ยังคงมาตรการดอกเบี้ยติดลบทำให้คาดว่าดอลลาร์สหรัฐฯยังมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนในภาวะที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระตุ้นความกังวลของนักลงทุน

ยูโร/ดอลลาร์ วันศุกร์ (22 กย.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ก่อนการเลือกตั้งในเยอรมนีในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายนนี้

Capital Market

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ (22  กย.)ดัชนี S&P 500 ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ แม้หุ้นแอปเปิลยังคงถ่วงดัชนี ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.04% สู่ระดับ 22,349.59, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.06% สู่ระดับ 2,502.22 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.07% สู่ระดับ 6,426.92

ตลาดหุ้นเอเซีย วันศุกร์ (22 กย.) ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงในช่วงเช้าวันนี้เนื่องจากปัจจัยความกังวลเรื่องเกาหลีเหนือและการลดอันดับเครดิตของจีนเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในวันนี้ โดยปิดตลาดวันนี้ดัขนีนิกเกอิลดลง 0.25% โดยเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯวันนี้และความตึงเครียดเกาหลีเหนือล้วนส่งผลลบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นวันนี้ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตและดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 0.15% และ 0.82 % ตามลำดับหลังS&p ลดอันดับเครดิตของจีน ( long-term sovereign credit rating ) จาก AA- มาอยู่ที่ A+ เมื่อเย็นวันพฤหัสที่ 21 และลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฮ่องกงลงจากระดับ AAA สู่ระดับ AA+ ในเช้าวันศุกร์ที่ 22

ตลาดหุ้นไทย วันศุกร์ ( 22 กย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงสอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่เนื่องจากปัจจัยเรื่องเกาหลีเหนือและการลดอันดับเครดิตของจีนเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในวันนี้ โดยในช่วงบ่ายดัชนีสูงขึ้นก่อนที่จะลดลงอีกครั้ง และปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 11.44จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 25 ก.ย. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment