Snapshot

สหรัฐอเมริกา

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมลดลง 0.9% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2009 และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่ง

ก่อนหน้านี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลงต่อไป โดยได้รับอิทธิพลจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาแอตแลนตา รายงานว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาส 3 มีแนวโน้มขยายตัว 2.2% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.0%

หลังการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดค้าปลีกในเดือนสิงหาคมลดลง 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกรกฎาคม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ปรับลดลงถึง 1.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยถูกกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.2% ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก่อน

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ในเดือนกันยายนปรับตัวลงสู่ระดับ 24.4 จากระดับ 25.2 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก

ยุโรป: ยูโรโซน

รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยโพลล์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศในวันที่ 26 ต.ค.เรื่องการต่ออายุมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 6 เดือน แต่อีซีบีจะปรับลดปริมาณการเข้าซื้อตราสารหนี้ลงสู่ 4 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนตั้งแต่เดือนม.ค. 2018 เป็นต้นไป โดยปรับลดลงจากอัตรา 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในปัจจุบัน เศรษฐกิจยูโรโซนในระยะนี้อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก และปัจจัยนี้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่า อีซีบีจะเริ่มต้นปรับลด QE ลง หลังจากอีซีบีเข้าซื้อตราสารหนี้ไปแล้วกว่า 2 ล้านล้านยูโรในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา โดยตราสารหนี้ส่วนใหญ่ที่เข้าซื้อเป็นพันธบัตรรัฐบาล รอยเตอร์สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ในวันที่ 11-14 ก.ย.ในการจัดทำโพลล์นี้ โดยโพลล์คาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะยังคงเติบโตต่อไปในช่วงหนึ่งปีข้างหน้า โดยอาจเติบโตในอัตรา 0.5% ในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตราว 0.4% ต่อไตรมาสในไตรมาส 4/2017 จนถึงไตรมาส 4/2018 อย่างไรก็ดี โพลล์รอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของอีซีบีจนถึงปี 2019 เป็นอย่างน้อย โดยอีซีบีตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2% เล็กน้อย โพลล์รอยเตอร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้ออาจอยู่ที่ 1.5% ในปีนี้ และ 1.4% ในปี 2018 การคาดการณ์ในทางบวกต่อเศรษฐกิจยูโรโซนเคยช่วยหนุนยูโรให้แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา และภาวะนี้สร้างความยุ่งยากให้แก่อีซีบีในการตัดสินใจ เพราะอีซีบีมักจะพยายามสกัดกั้นภาวะเงินเฟ้อจากราคานำเข้า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีกล่าวในการแถลงข่าวในเดือนนี้ว่า อีซีบีกำลังพิจารณาเรื่องวิธีการในการปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์รายเดือน และอีซีบีจะวางแผนเรื่องนี้ให้เสร็จภายในเดือนต.ค.

ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือ ยูโรกรุ๊ป ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจยูโรโซนจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปได้แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า "เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงฟื้นตัว และยังมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งเป็นวงกว้าง ซึ่งครอบคลุม 19 ชาติสมาชิกยูโรโซน ทั้งนี้ แม้ว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และเรายังมีภารกิจอีกมากในการรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่เรามั่นใจว่า ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น"

อังกฤษ

ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ระบุในวันพฤหัสบดีว่า BOE มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจอังกฤษเติบโตต่อไป และอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นต่อไป โดยแถลงการณ์นี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดจาก BOE ว่า อังกฤษกำลังจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ BOE ระบุว่า ความอดทนของ BOE ที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่สูงเกินเป้าหมายกำลังลดน้อยลงเรื่อยๆ ถึงแม้อังกฤษยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexitทั้งนี้ รายงานตัวเลขที่ออกมาในสัปดาห์นี้แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้ออังกฤษพุ่งสูงขึ้น และอัตราการว่างงานลดลง ผู้กำหนดนโยบายของ BOE ลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่สถิติต่ำสุดที่ 0.25% ต่อไปในวันพฤหัสบดีตามความคาดหมาย โดยสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) สองคนของ BOE ที่ลงคะแนนเสียงให้ BOE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในครั้งนี้ได้แก่นายเอียน แมคแคฟเฟอร์ที และนายไมเคิล ซอนเดอร์ส

กรีซ

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือ ยูโรกรุ๊ปขานรับข้อเสนอของกรีซในการยุติภาวะการขาดดุลงบประมาณที่สูงเกินไป โดยคาดว่าสภายุโรปจะให้การรับรองข้อเสนอดังกล่าวในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ เศรษฐกิจกรีซเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่สถานการณ์หนี้สินของรัฐบาลกรีซก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากที่กรีซได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ทางด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซขึ้นสู่ระดับ B- จากระดับ CCC โดยระบุว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองของกรีซเริ่มลดน้อยลง และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกรีซมีการขยายตัวดีขึ้น

เอเชีย: ญี่ปุ่น

รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทผู้ผลิตญี่ปุ่นลดลงจาก +27 ในเดือนส.ค. สู่ +25 ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 10 ปีในเดือนส.ค. และมีแนวโน้มว่าดัชนีจะลดลงต่อไปในอนาคต โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก รอยเตอร์จัดทำผลสำรวจรอยเตอร์ ทังกันรายเดือน ซึ่งมักจะปรับตัวสอดคล้องกับผลสำรวจทังกันรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยรอยเตอร์จัดทำผลสำรวจนี้จากการสอบถามบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในวันที่ 30 ส.ค.-12 ก.ย. โดยมีบริษัท 268 แห่งที่ตอบแบบสอบถามในครั้งนี้ ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทภาคบริการญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจาก

+29 ในเดือนส.ค. สู่ +34 ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ในขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ในระยะนี้ว่า การบริโภคภาคครัวเรือนฟื้นตัว

จีน

มณฑลเหอเป่ยซึ่งเป็นมณฑลที่มีปัญหาหมอกควันมากที่สุดของจีนเปิดเผยว่า จะรับรองว่าจะบรรลุเป้าหมายในการใช้ก๊าซธรรมชาติแทนถ่านหิน ขณะเดียวกันก็จะพยายามมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านคุณภาพอากาศในปีนี้ รัฐบาลมณฑลเหอเป่ยเปิดเผยว่าจะรับรองว่าครัวเรือนมากถึง 1.8 ล้านครัวเรือนเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงในการทำความอบอุ่นภายในสิ้นเดือนหน้า แม้มีความวิตกในมณฑลเหอเป่ยว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายและยากลำบากมากเกินไปก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อลดการใช้ถ่านหินในระดับมณฑลลงมากกว่า 6 ล้านตัน นายซู ฉิน ผู้ว่าการมณฑลเหอเป่ยกล่าวว่า มณฑลเหอเป่ยเป็นแนวหน้าในการทำ "สงครามต่อสู้กับมลภาวะ" ที่เริ่มดำเนินการในปี 2014 และมีแผนที่จะดำเนินมาตรการขั้น "เด็ดขาด" กับกลุ่มหมอกควันในฤดูหนาวปีนี้

คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า NDRC ได้อนุมัติโครงการการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมูลค่า 1.076 หมื่นล้านหยวน (1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนส.ค. ซึ่งลดลงอย่างมากจากโครงการที่ได้รับอนุมัติมูลค่า 1.665 แสนล้านหยวนในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. จีนได้อนุมัติโครงการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมูลค่า 4.638 แสนล้านหยวนแล้วในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขณะเดียวกัน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 6.8% ในเดือนม.ค.-ส.ค.ปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

เกาหลีเหนือ

เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นกล่าวว่า เกาหลีเหนือได้ทำการยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งในวันนี้ โดยขีปนาวุธลูกนี้ลอยข้ามเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น และตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา นายโยชิฮิเดะ สุกะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ขีปนาวุธลูกนี้ลอยข้ามญี่ปุ่น และตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิกในจุดที่อยู่ห่างจากเกาะฮอกไกโดไปทางทิศตะวันออกราว 2,000 กิโลเมตร (1,240 ไมล์) สถานีโทรทัศน์ NHK เผยแพร่ภาพข่าวที่แสดงให้เห็นว่า มีการกระจายเสียงเพื่อประกาศเตือนเรื่องขีปนาวุธในช่วงเวลาราว 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (05.00 น.ตามเวลาไทย) ในเมืองคามาอิชิทางตอนเหนือของญี่ปุ่น กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธลูกนี้ขึ้นไปถึงระดับความสูงราว 770 กิโลเมตร (480 ไมล์) และลอยไปเป็นเวลาราว 19 นาที เป็นระยะทางราว 3,700 กิโลเมตร (2,300 ไมล์) ซึ่งเป็นระยะทางที่สามารถไปถึงเกาะกวมของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพสหรัฐระบุว่า ทางกองทัพตรวจพบขีปนาวุธพิสัยกลางหนึ่งลูก แต่ขีปนาวุธลูกนี้ไม่ถือเป็นภัยคุกคามต่อทวีปอเมริกาเหนือ หรือต่อเกาะกวม ถึงแม้รัฐบาลเกาหลีเหนือเคยขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธไปยังเกาะกวมในช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม

อินโดนีเซีย

นายโดดี้ บูดี วาลูโย ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการเงินของธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) กล่าวว่า BI คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3 และจะขยายตัวในกรอบ 5.1-5.2% การขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 5.01% ในไตรมาส 2 อาจจะมาจากการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นในภาคเอกชน เขากล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของ BI ในเดือนที่แล้วจะใช้เวลา 2-3 ไตรมาสจึงจะส่งผลต่อการขยายตัวของสินเชื่อ ดังนั้นจะมีผลต่อจีดีพีในปีหน้ามากกว่าในปีนี้

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันศุกร์ (15 กย.) เงินบาททรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ ทั้งนี้วันนี้เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่นตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายอีกครั้งของเกาหลีเหนือต่อมติคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงในวันนี้ อย่างไรก็ดีดอลลาร์สหรัฐฯวันนี้อ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเซียส่วนใหญ่เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯเองก็ถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯ และปัญหาเพดานหนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งมาตรการลดภาษีก็ไม่มีความชัดเจนและมีแนวโน้มที่จะทำได้น้อยกว่าที่นักลงทุนคาดหวังไว้ก่อนหน้านี้

- ดอลลาร์/เยน วันศุกร์ (15 กย.)  เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้หลังจากที่ในช่วงแรกเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯจากการที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่นตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก

- ยูโร/ดอลลาร์ วันศุกร์ (15 กย.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจยูโรโซนที่ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับหนุนค่าเงินยูโรในขณะนี้ ขณะที่โพลล์รอยเตอร์ที่สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ชี้ถึงการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศในวันที่ 26 ต.ค.เรื่องการต่ออายุมาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน แต่อีซีบีจะปรับลดปริมาณการเข้าซื้อตราสารหนี้ลงสู่ 4 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนตั้งแต่เดือนม.ค. 2018 เป็นต้นไป โดยปรับลดลงจากอัตรา 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนในปัจจุบัน

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันศุกร์ (15  กย.)ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ โดยดัชนี S&P 500 พุ่งทะลุระดับ 2,500 หลังหุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมปรับตัวขึ้น และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นหลังจากลดลง 2 วัน ขณะที่ตลาดไม่สนใจการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดในเดือนส.ค. และผลผลิตอุตสาหกรรมลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. อันเป็นผลจากผลกระทบของพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้  ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.29% สู่ระดับ 22,268.34, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.18% สู่ระดับ 2,500.23 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.30% สู่ระดับ 6,448.47

- ตลาดหุ้นเอเซีย วันศุกร์ (15 กย.) ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ก่อนตลาดการเงินญี่ปุ่นเปิดทำการในวันนี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่นตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายอีกครั้งของเกาหลีเหนือต่อมติคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อย่างไรก็ดีดัชนีนิกเกอิวันนี้ปิดตลาดเพิ่ม 0.52% สู่ระดับ 19,909.50 หลังจากที่ปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นทันที โดยรายงานข่าวชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าเทียบกับเยนทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออก แม้การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจะทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคเอเชียลดลงก็ตาม สำหรับดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.53% มาอยู่ที่ระดับ 3,353.66

- ตลาดหุ้นไทย วันศุกร์ ( 15 กย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงเปิดตลาดตามทิศทางตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่หลังจากเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่นตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิก อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นดัชนีได้สูงขึ้น ส่งผลให้ปิดช่วงเช้าดัชนีสูงขึ้นจากดัชนีปิดวันก่อนเล็กน้อย ช่วงบ่ายดัชนีเคลื่อนไหวแคบๆ ส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.43 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 18 ก.ย. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment