Error
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
Print
Friday, 31 March 2017 09:50

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2559 โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ขยายตัว 1.9% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2% โดยการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของระบบเศรษฐกิจโดยรวมนั้น ขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 4/2559 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 3% อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี 2559 จีดีพีสหรัฐขยายตัว 1.6% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง 2.6% ในปี 2558

นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเดอโปล เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะขยายตัวเกิน 2% ในปีนี้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนในปีหน้าหรือราวๆนั้น ขณะเดียวกัน ยังระบุว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปตามที่เธอหวังไว้ คาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อีก อย่างไรก็ดี เธอไม่ได้ระบุว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกกี่ครั้ง พร้อมกันนี้ยังสนับสนุนให้ Fed ลดขนาดงบดุลด้วยการยุตินโยบายนำตราสารหนี้ที่ครบกำหนดนำไปลงทุนใหม่

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสัปดาห์ที่แล้วลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 258,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 247,000 ราย สำหรับยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่แบบถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 7,750 ราย สู่ระดับ 245,250 ราย ด้านยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง มีจำนวนเพิ่มขึ้น 65,000 ราย สู่ระดับ 2.05 ล้านราย ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค.

 

ยุโรป: เยอรมนี

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ในเดือนมีนาคมปรับตัวขึ้น 1.6% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจากระดับ 2.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีที่คำนวณตามมาตรฐานยุโรป (HICP) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% เมื่อเทียบรายปี จากที่ขยายตัว 2.2% ในเดือนก่อน รายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นนั้น มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมนั้น ยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนมี.ค.ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระดับ 2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ECB อาจจะยังไม่ชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า ECB จะจับตาดูว่า ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินต่อไป ขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ได้แสดงความเห็นเมื่อไม่นานมานี้ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในยูโรโซนยังคงอ่อนแอเกินไป และขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะลดระดับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

เอเชีย: ญี่ปุ่น

นายคิคูโอะ อิวาตะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้ เนื่องจากบีโอเจสามารถผ่อนคลายมาตรการทางการเงินได้เพียงพอผ่านโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น เขากล่าวว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเราได้ และจะออกจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณได้โดยไม่ต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่ถูกตีความว่าเป็นการแทรกแซงค่าเงินเสมอไป ซึ่งอยู่ในขอบเขตอำนาจของกระทรวงการคลัง นายอิวาตะได้แสดงความเห็นดังกล่าวหลังถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามว่า บีโอเจ ซึ่งดูดซับสภาพคล่องในตลาดผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวนมหาศาลนั้น จะเริ่มมาตรการอื่นๆ อาทิ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหรือไม่

เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คาดว่านายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์ของสหรัฐ พร้อมทั้งนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐจะเข้าร่วมการเจรจาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ-ญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวในเดือนหน้า ซึ่งทำลายความหวังของญี่ปุ่นที่หวังว่า ประเด็นการค้าที่ยุ่งยากจะไม่อยู่ในวาระเจรจา ผู้เข้าร่วมการเจรจา ซึ่งนำโดยนายเพนซ์ และนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะจัดการเจรจารอบแรกที่กรุงโตเกียวในวันที่ 18 เม.ย.เพื่อหารือในประเด็นต่างๆนับตั้งแต่นโยบายเศรษฐกิจมหภาค, การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการค้า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญต่อวิธีการเผชิญหน้ากับการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งรวมถึงนายรอสส์ ส่งสัญญาณแล้วว่า พวกเขาจะกดดันญี่ปุ่นให้ยกเลิกกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และซื้อสินค้าของสหรัฐมากขึ้น ด้านญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เสนอให้จัดการเจรจา หวังว่าจะไม่รวมประเด็นเรื่องการซื้อขายรถยนต์ และสินค้าเกษตรในการเจรจา โดยเสนอวาระการประชุมที่มุ่งเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และพลังงานแทน หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นก็คือการทำให้การเจรจาระดับทวิภาคีเป็นแบบไม่เป็นทางการเท่าที่ทำได้ เพื่อให้นายอาโสะสามารถติดต่อโดยตรงกับนายเพนซ์ได้ ซึ่งมีการมองว่านายเพนซ์มีทัศนคติแบบเผชิญหน้าในเรื่องการค้าน้อยกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในฝ่ายบริหารของปธน.ทรัมป์  การเข้าร่วมการเจรจาของนายรอสสะท้อนโอกาสที่ว่า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นช่องทางเพื่อหารือเรื่องข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี ซึ่งอาจจะทำให้ญี่ปุ่นถูกสหรัฐกดดันให้เปิดธุรกิจที่ได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น อาทิ ภาคเกษตรกรรม และเวชภัณฑ์ นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รมว.เศรษฐกิจ, การค้าและอุตสาหกรรม และนายฟูมิโกะ คิชิดะ รมว.ต่างประเทศจะเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ด้วย

 

เอเซีย: จีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างคำกล่าวของสถาบันแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะขยายตัว 6.8% ในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งเท่ากับในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากงบรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาล และการให้สินเชื่อสูงเป็นประวัติการณ์ของธนาคาร สถาบันระบุว่า การขยายตัวในไตรมาสแรกเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคาผู้ผลิต, กำไรภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้น และการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น นายหวัง หงจู นักวิจัยของสถาบันกล่าวว่าจุดสนใจของนโยบายเศรษฐกิจมหภาคควรจะอยู่ที่การปฏิรูปด้านโครงสร้างในด้านอุปทานเพื่อเพิ่มการผลิตในระยะยาว สถาบันยังเตือนว่า รัฐบาลควรป้องกันความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเงินด้วยการบริหารจัดการระบบควบคุมทางการเงินและปริมาณที่ดินอย่างเหมาะสม

กระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐเพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ของเขาในรัฐฟลอริดาระหว่างวันที่ 6-7 เม.ย.นี้

 

ญี่ปุ่น

นายคิคูโอะ อิวาตะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้ เนื่องจากบีโอเจสามารถผ่อนคลายมาตรการทางการเงินได้เพียงพอผ่านโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น เขากล่าวว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเราได้ และจะออกจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณได้โดยไม่ต้องซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะไม่ถูกตีความว่าเป็นการแทรกแซงค่าเงินเสมอไป ซึ่งอยู่ในขอบเขตอำนาจของกระทรวงการคลัง นายอิวาตะได้แสดงความเห็นดังกล่าวหลังถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามว่า บีโอเจ ซึ่งดูดซับสภาพคล่องในตลาดผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวนมหาศาลนั้น จะเริ่มมาตรการอื่นๆ อาทิ การซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหรือไม่

เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คาดว่านายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์ของสหรัฐ พร้อมทั้งนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐจะเข้าร่วมการเจรจาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ-ญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวในเดือนหน้า ซึ่งทำลายความหวังของญี่ปุ่นที่หวังว่า ประเด็นการค้าที่ยุ่งยากจะไม่อยู่ในวาระเจรจา ผู้เข้าร่วมการเจรจา ซึ่งนำโดยนายเพนซ์ และนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะจัดการเจรจารอบแรกที่กรุงโตเกียวในวันที่ 18 เม.ย.เพื่อหารือในประเด็นต่างๆนับตั้งแต่นโยบายเศรษฐกิจมหภาค, การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการค้า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญต่อวิธีการเผชิญหน้ากับการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโส ซึ่งรวมถึงนายรอสส์ ส่งสัญญาณแล้วว่า พวกเขาจะกดดันญี่ปุ่นให้ยกเลิกกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และซื้อสินค้าของสหรัฐมากขึ้น ด้านญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้เสนอให้จัดการเจรจา หวังว่าจะไม่รวมประเด็นเรื่องการซื้อขายรถยนต์ และสินค้าเกษตรในการเจรจา โดยเสนอวาระการประชุมที่มุ่งเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และพลังงานแทน หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นก็คือการทำให้การเจรจาระดับทวิภาคีเป็นแบบไม่เป็นทางการเท่าที่ทำได้ เพื่อให้นายอาโสะสามารถติดต่อโดยตรงกับนายเพนซ์ได้ ซึ่งมีการมองว่านายเพนซ์มีทัศนคติแบบเผชิญหน้าในเรื่องการค้าน้อยกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในฝ่ายบริหารของปธน.ทรัมป์  การเข้าร่วมการเจรจาของนายรอสสะท้อนโอกาสที่ว่า การเจรจาครั้งนี้จะเป็นช่องทางเพื่อหารือเรื่องข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคี ซึ่งอาจจะทำให้ญี่ปุ่นถูกสหรัฐกดดันให้เปิดธุรกิจที่ได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น อาทิ ภาคเกษตรกรรม และเวชภัณฑ์ นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รมว.เศรษฐกิจ, การค้าและอุตสาหกรรม และนายฟูมิโกะ คิชิดะ รมว.ต่างประเทศจะเข้าร่วมการเจรจาครั้งนี้ด้วย

 

ออสเตรเลีย

ภาคครัวเรือนของออสเตรเลียมีระดับความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นสู่สถิติสูงสุดที่ 11.7 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (8.97 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในไตรมาส 4/2016 ในขณะที่ปริมาณการถือครองเงินสดเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นครั้งแรก และสิ่งนี้บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีสำหรับปริมาณการจับจ่ายใช้สอย ถึงแม้ค่าแรงเติบโตอย่างเฉื่อยชา สินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากมูลค่าบ้านและที่ดินที่เพิ่มขึ้น 2.47 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สู่ 6.4 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) พิจารณาว่า งบดุลของภาคครัวเรือนโดยรวมอยู่ในสถานะที่ดี ถึงแม้ RBA กังวลกับการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

ไทย

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก คาดการส่งออกของไทยในไตรมาสแรกปีนี้ จะเติบโต 1-2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามแนวโน้มการค้าและเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัว นายนพพร เทพสิทธา ประธาน สรท.กล่าวในเอกสารเผยแพร่ว่าสรท.คาดว่า การส่งออกในเดือนมีนาคม จะเติบโตกว่าเดือนกุมภาพันธ์ และ ใกล้เคียงกับเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทำให้การส่งออกในไตรมาส 1 เติบโต 1-2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2559 เขากล่าวด้วยว่าถ้าการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโตต่อไป โดยไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติรุนแรงมากระทบ อาทิ การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น การปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพของจีน ยุโรป และ การปรับราคาขึ้นของน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ การส่งออกในไตรมาส 2, 3, 4 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 2-3% อย่างไรก็ตาม สรท.คาดว่า ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน, ความไม่ชัดเจนของการปฏิรูปเศรษฐกิจของสหรัฐ ญี่ปุ่นและจีน รวมทั้งผลกระทบจากการที่อังกฤษออกจากอียู หรือ Brexit  เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.พ. มีมูลค่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หากหักมูลค่าการส่งออกของทองคำและสินค้าหมวดอากาศยานซึ่งปีก่อนส่งออกสูง พบว่าการส่งออกเดือนก.พ.ปีนี้ ขยายตัวถึง 8.5% ซึ่งทำให้ในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกขยายตัวแล้ว 2.5%

จับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรายงานออกมาในวันที่ 31 มีนาคม 2560 เช่น  เครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน ดุลบัญชีเดินสะพัด สินเชื่อและเงินฝากของสถาบันการเงิน เป็นต้น

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันพฤหัส (30 มีค.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเซียส่วนใหญ่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหลายคนออกมาให้ความเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯยังมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ โดยนายเจอโรม พาวเวล กรรมการใน FOMC กล่าวว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้ นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า การที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ถือว่ามีความเหมาะสม และระบุว่ามุมมองของ Fed ในปัจจุบันไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโก แสดงการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 หรือ 2 ครั้งในปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ในช่วงตลาดสหรัฐฯโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2016 ขยายตัวเกินคาดที่ 2.1% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 1.9%

- ดอลลาร์/เยน วันพฤหัส (30 มีค.) เงินเยนแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ในภาวะที่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯส่วนใหญ่ยังมองว่ามีความเหมาะสมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่ว่ายังไม่ได้ประเมินผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เนื่องจากมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ขณะที่ช่วงนี้นักลงทุนก็มั่นใจลดลงต่อมาตรการเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ดีดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนในช่วงตลาดสหรัฐฯหลังรายงานตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของจีดีพีสหรัฐฯไตรมาส 4/2016 ขยายตัวเกินคาดที่ 2.1%

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 30 มีค.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้โดยปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในฝรั่งเศสในเดือนเมษายนและพฤษภาคมและการเจาจา Bexit ที่เริ่มต้นแล้วเมื่อวานนี้ยังกดดันค่าเงินยูโรต่อเนื่อง ขณะที่ในช่วงตลาดสหรัฐฯดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าต่อเนื่องหลังรายงานจีดีพีสหรัฐฯขยายตัวเกินคาด

 

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันพฤหัส ( 30 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขี้นในวันพฤหัสบดี นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินหลังข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายอย่างมากของผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 2.1% ในไตรมาส 4/2016  ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.33% สู่ระดับ 20,728.49, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.29% สู่ระดับ 2,368.06 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 5,914.34

- ตลาดหุ้นเอเซีย วันพฤหัส ( 30 มีค.) ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 0.80 % สู่ระดับ 19,063.22 โดยได้รับแรงกดดันจากการที่เยนชะลอการอ่อนค่า อย่างไรก็ดีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ปรับขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการสูงขึ้นของดัชนี Nasdaq ของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้ ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดลดลง 1.00% มาอยู่ที่ 3,208.92 ขณะที่ความวิตกที่ยังมีอยู่เกี่ยวกับสภาพคล่องถูกซ้ำเติมด้วยมาตรการควบคุมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์สร้างความวิตกให้แก่นักลงทุน ขณะที่มีหลายเมืองมากขึ้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุมการซื้อบ้าน นอกจากนี้ธนาคารกลางจีนได้งดเว้นการเข้าซื้อพันธบัตรในตลาดรองเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และดูดซับสภาพคล่อง 4.0 หมื่นล้านหยวนในวันนี้ ทั้งนี้สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถาบันแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจแห่งชาติเรียกร้องให้ทางการป้องกันความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเงินด้วยการบริหารจัดการระบบควบคุมทางการเงินและปริมาณที่ดินอย่างเหมาะสม ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มเติมที่ควบคุมผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสเตือนว่า เศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นจากภาวะตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ขณะที่การปล่อยสินเชื่อสูงเป็นประวัติการณ์ทำให้ธนาคารต่างๆมีความเสี่ยงมากขึ้น และรัฐบาลมีความสามารถน้อยลงในการต่อสู้กับความเสี่ยงดังกล่าว

- ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส( 30 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวในช่วงเช้าก่อนที่ในช่วงบ่ายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4.91 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 31 มี.ค. 2560

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment