Error
กรมสรรพสามิตขับเคลื่อนโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ปี 2568
Print
Wednesday, 04 June 2025 22:30

กรมสรรพสามิตเดินหน้าต่อเนื่องโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ประจำปี 2568  การประกวดความร่วมมือระหว่างสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่และผู้ประกอบการสุราชุมชน เพื่อยกระดับผู้ประกอบการสุราชุมชนทั่วประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น โดยปีนี้มีการยกระดับโครงการให้เข้มข้นยิ่งขึ้นผ่านการผสานแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG (Environment, Social, Governance) เข้ากับกระบวนการพัฒนาและผลิตสุราชุมชน เพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน

​​นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากการที่กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการ ปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิต ในปี พ.ศ. 2567 โดยการลดภาษีสุราแช่พื้นบ้าน เช่น อุ กระแช่ และสาโท จากเดิมร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 0 เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนของผู้ผลิตสุราชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้ผลักดันการแก้ไขกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้ง่ายต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหม่และวิสาหกิจชุมชนมากขึ้น ได้แก่ การผ่อนปรนข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะห่างจากแหล่งน้ำให้สามารถตั้งโรงงานใกล้แหล่งน้ำสาธารณะได้โดยต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตผลิตสุราขนาดกลางได้โดยไม่ต้องผ่านการเป็นโรงงานระดับเล็กมาก่อน รวมถึง การอนุญาตให้จำหน่ายเบียร์สดแบบถัง (KEG) นอกสถานที่ผลิตได้ ซึ่งมาตรการเหล่านี้เป็นการลดข้อจำกัด  ทางกฎหมายและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่น อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล  ในการส่งเสริม Soft Power ของประเทศ

​​ทั้งนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว กรมสรรพสามิตจึงได้ดำเนินการ          ส่งเสริมผู้ประกอบการสุราชุมชนผ่านโครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2567 ที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือระหว่างสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่และผู้ประกอบการสุราชุมชนในการพัฒนาสุราชุมชนด้วยแนวคิด ESG โดยในปี พ.ศ. 2568 กรมสรรพสามิตได้เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบการคราฟต์เบียร์เข้าร่วมการประกวดในโครงการนี้เป็นครั้งแรก ถือเป็นการขยายขอบเขตโครงการให้ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมสุราชุมชนที่มีความหลากหลาย มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจยุคใหม่และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันได้ในระดับสากล

​​นางสาวกุลยาฯ กล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยมอบหมายให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยสนับสนุนและให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการในทุกมิติ ตั้งแต่การจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงงาน การพัฒนาแรงงานในพื้นที่ การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงาน ตลอดจนส่งเสริมด้านธรรมาภิบาล เช่น การจัดทำบัญชีอย่างโปร่งใส การเข้าถึงแหล่งทุน และการตรวจสอบแสตมป์สุราอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการประกวดในครั้งนี้ มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราชุมชน ประเภทสุรากลั่น สุราแช่ และคราฟต์เบียร์ผ่านการคัดเลือกในระดับจังหวัด จำนวน 26 ราย แบ่งเป็นจากภาคเหนือ 4 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 ราย ภาคตะวันออก 2 ราย ภาคตะวันตก 2 ราย ภาคกลาง 7 ราย และภาคใต้ 5 ราย  โดยมีผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 15 ราย ได้แก่

​​1. ประเภทสุรากลั่นชุมชน จำนวน 5 ราย ดังนี้

​​​1.1 บริษัท เสือเต้น 22 จำกัด จังหวัดแพร่

​​​1.2 บริษัท ที เค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด จังหวัดนนทบุรี

​     ​​1.3 บริษัท มหาโอสถ จำกัด จังหวัดนครปฐม

​    ​ ​1.4 บริษัท ดิเคน เอ็กซ์ เชนจ์ จำกัด จังหวัดกระบี่

​​     ​1.5 บริษัท ยอดข้าวสุราทิพย์ จำกัด จังหวัดตรัง

​​2. ประเภทสุราแช่ชุมชน จำนวน 5 ราย

​​​2.1 วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรทฤษฎีใหม่ บ้านไร่รุ้งตะวัน จังหวัดยโสธร

​     ​​2.2 บริษัท อี.เอช.ไอ.โตไก จำกัด จังหวัดลำพูน

​     ​​2.3 วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์แปรรูปบ้านตอไม้แดง จังหวัดกาญจนบุรี

​     ​​2.4 บริษัท เต็มสิบพลัส จำกัด จังหวัดระนอง

​​   ​2.5 บริษัท ดื่มได้ดื่มดีย์ จำกัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร

​​3. ประเภทคราฟต์เบียร์ จำนวน  5 ราย

​​​3.1 บริษัท คอลมี ปาป๊า จำกัด จังหวัดนนทบุรี

​​    ​3.2 บริษัท โรงเบียร์สาลิกาลิ้นทอง จำกัด จังหวัดนครนายก

​​  ​3.3 บริษัท คราฟต์ โซไซตี้ จำกัด จังหวัดขอนแก่น

​​    ​3.4 บริษัท นรสิงห์บริวเวอรี่ จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร

​    ​​3.5 บริษัท สหประชาชื่น จำกัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร

โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทสุรากลั่นชุมชน ได้แก่ บริษัท มหาโอสถ จำกัด จังหวัดนครปฐม

ประเภทสุราแช่ชุมชน ได้แก่ บริษัท อี.เอช.ไอ.โตไก จำกัด จังหวัดลำพูน และประเภทคราฟต์เบียร์ ได้แก่

บริษัท สหประชาชื่น จำกัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร

​​นางสาวกุลยาฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการ “1 ชุมชน 1 สรรพสามิต แชมเปี้ยน” ประจำปี 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก ผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการสุราชุมชนทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน ควบคู่กับการส่งเสริมการผลิตสุราชุมชนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อย่างสมดุล พร้อมผลักดันการปรับปรุงกฎหมายและมาตรการด้านภาษีให้เอื้อต่อการเติบโตของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทั้งยังขยายโอกาสให้คราฟต์เบียร์เข้ามามีบทบาทในเวทีนี้เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมสรรพสามิตในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสุราชุมชนเติบโตอย่างมั่นคง สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนา Soft Power ของประเทศในระยะยาว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment