Snapshot

สหรัฐอเมริกา

- ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นเกินสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 592,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 หลังจากอยู่ที่ระดับ 558,000 ยูนิตในเดือนมกราคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 565,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 12.8% โดยยอดขายบ้านใหม่ทะยานขึ้นในเขตมิดเวสต์ และตะวันตก แต่ทรุดตัวลงในเขตตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่ลดลง 4.9% สู่ระดับ 296,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ

- ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 15,000 ราย สู่ระดับ 258,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานได้ทำการปรับข้อมูลจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่ย้อนกลับไปถึงปี 2012 ส่งผลให้ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 80 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 240,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับจำนวนยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง มีจำนวนลดลง 39,000 ราย สู่ระดับ 2.0 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 มีนาคม

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" อย่างไรก็ดี นางเยลเลนไม่ได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หรือส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินในการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้แต่อย่างใด

- ผลสำรวจของ Quinnipiac University พบว่า ชาวสหรัฐส่วนใหญ่ไม่ชื่นชอบร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์" ที่จะมาทดแทน "โอบามาแคร์" และชาวสหรัฐเหล่านี้ก็พร้อมที่จะลงโทษสมาชิกรัฐสภาที่ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว โดยจะไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่สมาชิกรัฐสภาเหล่านี้อีกต่อไป ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า ผู้ถูกสำรวจจำนวน 56% คัดค้านแผนการของพรรครีพับลิกันที่จะยกเลิก"โอบามาแคร์" ขณะที่มีเพียง 17% ที่สนับสนุนร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์" โดยผลสำรวจยังแสดงว่า ผู้ถูกสำรวจ 46% ระบุว่า พวกเขาจะไม่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในครั้งต่อไปให้แก่สมาชิกสภาคองเกรสที่ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์" ของพรรครีพับลิกัน ขณะที่มีเพียง 19% ที่ระบุว่ามีแนวโน้มลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่สมาชิกสภาคองเกรสที่ลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว

ยุโรป: อังกฤษ

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ระบุว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรในเดือนกุมภาพันธ์มีการขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน จากที่ลดลง 0.5% ในเดือนมกราคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% โดยเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.7% (yoy) จากระดับ 1.0% ในเดือนมกราคม ทั้งนี้สำนักงานสถิติรายงานว่า ถึงแม้ยอดค้าปลีกมีการขยายตัวมากเกินคาด แต่ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นก็กำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อปริมาณยอดขายในภาคค้าปลีก

- สถาบันวิจัย GfK ของเยอรมนี รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีประจำเดือนเมษายนปรับตัวลงสู่ระดับ 9.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 10.0 โดยนาย Rolf Buerkl นักวิจัยแห่ง GfK ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวเยอรมัน มาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายได้ และการขยายตัวของเงินเฟ้อในเยอรมนี ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.2% ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งขึ้น

เอเซีย: จีน

- นายซุน จื้อเหวิน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนได้ลงนามในสัญญามูลค่า 1.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯพื่อนำเข้าสินค้าของฟิลิปปินส์ในระหว่างที่นายหวัง หยาง รองนายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนฟิลิปปินส์เมื่อไม่นานมานี้ โดยสินค้าดังกล่าวได้แก่ผลไม้และไม้แปรรูป

- กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนให้ความสำคัญต่อการทำการค้ากับเกาหลีใต้ และจะยังคงปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO) ต่อไป รมว.การค้าของเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เกาหลีใต้ได้ร้องเรียนต่อ WTO แล้วเรื่องที่จีนทำการตอบโต้ต่อบริษัทของเกาหลีใต้จากกรณีการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐในเกาหลีใต้

- กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า จีนมีความวิตกอย่างมากกับประเด็นเรื่องคุณภาพในอุตสาหกรรมเนื้อของบราซิล และหวังว่าบราซิลจะลงโทษบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอย่างรุนแรง จีนได้ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อทั้งหมดจากบราซิลแล้วตามมาตรการป้องกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในบราซิลถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเพื่ออนุญาตให้มีการขายเนื้อที่ปนเปื้อน

- สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า การนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือของจีนลดลงสู่ระดับ 1.23 ล้านตันในเดือนก.พ. จาก 1.45 ล้านตันในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นปริมาณต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2015 หลังจากที่มีการออกคำสั่งห้ามการนำเข้าจากเกาหลีเหนือ การนำเข้าจากเกาหลีเหนือในเดือนก.พ.ลดลง 18.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียและมองโกเลียลดลงจากเดือนม.ค. เนื่องจากนโยบายการนำเข้าที่เข้มงวดขึ้น

ไทย

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอง CLMVT จะเป็นแกนหลักสำคัญของอาเซียนในอนาคต โดยเฉพาะภายหลังจากที่สหรัฐอเมริกาประกาศว่า จะไม่เข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) ขณะที่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP) จะมีความสำคัญมากขึ้น และจะมีการค้าที่ใหญ่ไม่แพ้ TPP เพราะมีทั้งอินเดีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียนอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาของ RCEP คือต้องดูว่าอินเดีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะมีความสัมพันธ์แนบแน่นกันขนาดไหน ส่วนอาเซียนจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่แท้จริงของ RCEP ซึ่งหากอาเซียนรวมตัวกันเป็นปึกแผ่น จะมีอำนาจในช่วงที่มีการช่วงชิงกันอย่างรุนแรงระหว่างสหรัฐกับจีน ถ้าแต่ละประเทศในอาเซียน แตกเป็นประเทศเล็กๆ ไม่เป็นปึกแผ่นกัน ก็จะถูกบังคับให้เลือกฝ่ายได้ง่าย ซึ่งนโยบายของอาเซียนจะต้องไม่เลือกข้าง ทั้งนี้ CLMVT ได้แก่ ประเทศกัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม และไทย ซึ่งนายสมคิด ระบุว่า มีประชากรรวมกันถึง 230 ล้านคน และมีการเชื่อมต่อกับ One Belt One Road ของจีน โดย CLMVT ถือเป็นจุดสำคัญและเป็นหัวใจของอาเซียน และเชื่อว่าในอนาคต สหรัฐจะพยายามเข้ามาใน CLMVT มากขึ้น รวมถึงประเทศในยุโรป อย่างฝรั่งเศส หรืออังกฤษด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของจีน ราวเดือนพ.ค.จีนจะมีการจัดประชุมกำหนดนโยบายเรื่อง One Belt One Road โดยจะมีการเชิญรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญจากกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ รัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีคมนาคม ไปร่วมประชุม เพื่อกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัจจุบันนักธุรกิจไทยออกไปลงทุนใน CLMV จำนวนมาก ขณะเดียวกัน นักลงทุนจาก CLMV ก็พยายามจะมาลงทุนที่ไทย ยกตัวอย่างเช่น เมียนมาร์ เริ่มมีการสอบถามถึงการนำบริษัทในตลาดของเมียนมาร์ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไทย และอนาคตก็จะขยายเป็น Dual listing อย่างไรก็ตาม ไทยจะต้องเพิ่มในเรื่องการค้าชายแดน กับกลุ่มประเทศ CLMV โดยพัฒนาให้มีจุดผ่านแดนเพิ่มขึ้น และมีความสะดวกมากขึ้น

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันพฤหัส (23 มีค.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่เงินเอเซียหลายสกุลก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯเช่นกัน อย่างไรก็ดีช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯเช่นกัน โดยช่วงนี้นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯจะมีความสามารถมากพอหรือไม่ในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายด้านภาษี ซึ่งการตั้งข้อสงสัยดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงและปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยขณะนี้นักลงทุนในตลาดการเงินมุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะสามารถรวบรวมเสียงโหวตได้มากพอหรือไม่ในวันพฤหัสบดีนี้ในการผลักดันร่างกฎหมายยกเลิกโอบามาแคร์ (กฎหมายประกันสุขภาพของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา) เพราะร่างกฎหมายของปธน.ทรัมป์เผชิญกับเสียงต่อต้านจากสมาชิกพรรครีพับลิกันฝ่ายอนุรักษ์นิยม เนื่องจากสมาชิกกลุ่มนี้มองว่า ร่างกฎหมายของปธน.ทรัมป์มีความใกล้เคียงกับโอบามาแคร์มากเกินไป ส่วนทางด้านสมาชิกพรรครีพับลิกันสายกลางกังวลว่า ร่างกฎหมายของปธน.ทรัมป์อาจสร้างความไม่พอใจต่อชาวสหรัฐจำนวนหนึ่ง

- ดอลลาร์/เยน วันพฤหัส (23 มีค.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนที่ในช่วงบ่ายเงินเยนจะแข็งค่า โดยช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐฯมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯจะสามารถผลักดันนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายด้านภาษีได้หรือไม่

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 23 มีค.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนที่ช่วงบ่ายเงินยูโรจะแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯโดยช่วงนี้ดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดัน ขณะที่นักลงทุนรอดูว่าปธน.ทรัมป์จะสามารถรวบรวมเสียงโหวตได้มากพอหรือไม่ในการผลักดันมาตรการต่างๆตามที่หาเสียงไว้

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันพฤหัส ( 23 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลงในวันพฤหัสบดีหลังสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐเลื่อนการลงมติร่างกฏหมายประกันสุขภาพ ซึ่งถือเป็นการทดสอบนโยบายแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ความไม่แน่นอนในการผ่านกฏหมายดังกล่าวจะสร้างความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของปธน.ทรัมป์ในการเสนอกฏหมายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากสภาคองเกรสที่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ซึ่งรวมถึงความพยายามที่จะปฏิรูปภาษีและการลงทุนในโครงการด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน สภาผูแทนสหรัฐมีกำหนดลงมติร่างกฏหมายเฮลธ์แคร์ในวันพฤหัสบดี แต่ต้องเลื่อนการลงมติออกไป หลังจากที่ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอจากสมาชิกพรรครีพับลิกันที่จะผ่านร่างกฏหมายดังกล่าว ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.02% สู่ระดับ 20,656.58, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 0.11% สู่ระดับ 2,345.96 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 0.07% สู่ระดับ 5,817.69

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัส ( 23 มีค.)ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 0.23% มาอยู่ที่ 19,085.31 หลังจากเคลื่อนตัวระหว่างแดนบวกและลบ โดยในช่วงแรกดัชนีลดลงต่ำสุดที่ 18,973.75 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ขณะที่ตลาดเผชิญกับแรงกดดันจากเรื่องการเมืองในญี่ปุ่น ดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นในช่วงต่อมา โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยน ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดบวก 0.11% มาอยู่ที่ 3,248.91 อย่างไรก็ดีช่วงนี้ตลาดกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัว และกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นในจีน

- ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 23 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าก่อนที่จะลดลงหลังจากนั้น โดยมีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนและหลักทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ขณะที่มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 2.06 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 24 มี.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment