Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Daily Research Daily View - บล.กสิกรไทย
Daily View - บล.กสิกรไทย PDF Print E-mail
Friday, 20 October 2017 09:47

Shopping Time การปรับลดลงมาใกล้ 1,670 จุด เป็นโอกาสให้ทยอยเข้าซื้อ คาดว่านับจากนี้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650 - 1,700 จุดก่อนที่จะปรับขึ้นไปทดสอบ 1,760 จุดในต้นปีหน้า หุ้นแนะนำให้เริ่มซื้อสะสมวันนี้เลือก PTTEP CPALL และ PSH

SET Index ปรับลงมาใกล้ 1,670 จุด เป็นโอกาสให้ทยอยเข้าซื้อ : วานนี้ SET Index ปรับลดลงหนัก 1.41% และปิดตัวใกล้ระดับ 1,683 จุด ประเมินสาเหตุหลักในการปรับฐานของตลาด เกิดจากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยการขายที่รุนแรงมากผิดปกติส่วนหนึ่งมาจากการขายของบัญชีซื้อขายเพื่อบริษัทหลักทรัพย์ (วานนี้ขายสุทธิ 3 พันล้านบาท เป็นการขายที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับนักลงทุนกลุ่มอื่น) สอดคล้องกับที่ KS Research วิเคราะห์ไว้ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์รายวัน Daily View เมื่อ 16 ต.ค.60 ที่ผ่านมา

การขายของบัญชีซื้อขายเพื่อบริษัทหลักทรัพย์ จะมีส่วนหนึ่งที่มาจากธุรกรรม Block Trade ซึ่งก่อนหน้านี้มีการซื้อสะสมมาอย่างต่อเนื่อง โดย บัญชีเพื่อ บล. ซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ 1 ก.ย. - 18 ต.ค.60 1.29 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับสถานะคงค้างของ Single Stocks Futures ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันมากว่า 1 ล้านสัญญา

จะเห็นได้ว่าปริมาณการทำธุรกรรม Block Trade เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาอันสั้น เมื่อ SET Index เกิดการปรับฐาน ส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน Block Trade จึงเป็นการบีบให้ต้องมีการขายเพื่อรักษากำไร ขายตัดขาดทุนเพื่อป้องกันการถูก Call margin ซึ่งจะเห็นได้จากสถานะคงค้างของ Single Stocks Futures วานนี้วันเดียวหายไปกว่า 2.74 แสนสัญญา และด้วยพลังของการ Leverage ราคาหุ้นจึงปรับลงรุนแรงผิดปกติ ดังนั้นเมื่อแรงขายสงบลงหุ้นเหล่านี้ก็จะมีการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง

KS Research คาดว่าวันนี้ SET Index ยังมีโอกาสปรับลดลงต่อในช่วงเช้าจากแรงขายที่ตกค้าง ซึ่งจะทำให้ดัชนี

ลงมาใกล้ 1,670 จุด มองเป็นโอกาสในการทยอยเข้าสะสมเพิ่ม โดยคาดว่านับจากนี้ถึงสิ้นปีดัชนีจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,650 - 1,700 จุด เนื่องจากการเข้าซื้อผ่านธุรกรรม Block Trade จะเบาบางลง และนักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศจะเห็นการเข้าซื้อสะสมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากคำสั่งซื้อ LTF ที่จะมาเข้ามาในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี (คาดว่าจะมีเข้ามาประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) แต่คาดว่าจะไปในลักษณะตั้งรับมากว่าการไล่ราคา ก่อนที่นักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อต่อเนื่องอีกครั้งตอนต้นปีดันดัชนีไปทดสอบ 1,760 จุด โดยกลุ่มหุ้น High Upside จากราคาเป้าหมาย และ High EPS Growth (2018) จะเป็นเป้าหมายในการลงทุน STEC CK DEMCO KCE KAMART TPCH PSH SC CPALL HMPRO BJC ROBINS AMATA KTB BBL

PTTEP จะปรับลดลงแค่ระยะสั้นจากผลของการบันทึกด้อยค่าโครงการ Canada oil sand: วานนี้ PTTEP แจ้งต่อ ตลท. ถึงการปรับแผนพัฒนาโครงการ Canada oil sand โดยเลื่อนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของโครงการออกไป ซึ่งส่งผลให้ PTTEP ต้องบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ในงวด 3Q60 เป็นจำนวน 550 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.85 หมื่นล้านบาท คิดเป็นต่อหุ้นที่ 4.7 บาทต่อหุ้น การตั้งด้อยค่าในครั้งนี้จะทำให้ Downside ที่จะเกิดจาก Canada oil sand จบลงเพราะมูลค่าสินทรัพย์เหลือเพียง 45 ล้านเหรียญเท่านั้น โดย PTTEP เคยตั้งด้อยค่าโครงการนี้ มาแล้ว 2 ครั้ง งวด 4Q57 630 ล้านเหรียญ และ 3Q58 626 ล้านเหรียญ

คาดว่า PTTEP จะปรับลดลงสะท้อนต่อประเด็นลบดังกล่าว แต่จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เมื่อย้อนกลับไปดูการ เคลื่อนไหวของราคาในช่วงที่ตลาดรับรู้การปรับด้อยค่า Canada oil sand 2 ครั้งก่อนหน้า จะพบว่า ครั้งแรก 16 ม.ค.58 ราคาปรับลดลงเพียง 2.42% ก่อนจะฟื้นตัวใน 2 สัปดาห์ต่อมา 20.68% ครั้งที่ 2 13 ต.ค.58 ราคาปรับลดลง 3.30% ก่อนที่จะฟื้นตัวในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา 5.35% ซึ่งสำหรับครั้งนี้คาดว่า PTTEP จะฟื้นตัวกลับมาได้ด้วยเพราะแรงกดดันจาก Canada oil sand ได้จบลงแล้ว อีกทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันในปัจจุบันเป็นขาขึ้นแตกต่างจากปี 2558 ที่เป็นขาลงยาวทั้งปี นอกนั้นราคาหุ้นยังมีประเด็นบวกรออยู่คือการประมูลสัมปทานบงกชและเอราวัณในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า แม้ว่า KS Research ยังอยู่ในระหว่างการทบทวนมูลค่าพื้นฐาน โดยมีโอกาสปรับลดลงจาก 108 บาท แต่จะไม่ต่ำกว่าไปกว่า 102 บาท การที่ราคาลงมาต่ำกว่า 90 บาทจะเป็นโอกาสให้เข้าซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน SET Index ทยอยเข้าซื้อเมื่อดัชนีมาใกล้ 1,670 จุด เพื่อไปรอขายทำกำไรที่ 1,760 จุดในต้นปีหน้า โดยแนะนำให้สะสม PTTEP CPALL และ PSH เช่นเดียวกับกลุ่มหุ้นหวังผลระยะกลาง-ยาวยังคง "ขึ้นถือ-ลงซื้อ" MTLS BBL PSH KCE CPALL TICON STEC JWD TPCH KAMART และที่ KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์ WHA SYNTEC UNIQ MINT PLANB BDMS MCS ให้ซื้อเพิ่มได้

 

Daily Picks

Daily Picks      Trading Target

PSH                       26.00

PTTEP                    100.00

CPALL                     75.00

 

Alternative Trading

SET50 Futures: S50Z17 ยังมีสถานะ Long ที่ 1,082 จุด ให้รอ Long เพิ่ม 1,065 จุดส่วนสถานะShort S50Z17H18 ที่ 1.5 จุดให้ถือเพื่อเป้าทำกำไรที่ -3.5 จุด

 

หุ้นแนะนำ Long

Long      ระดับ  เป้าทำกำไร

PTTEPZ17   ATO     100.00

CPALLZ17   ATO      75.00

 

หุ้นแนะนำ Short

Short     ระดับ  เป้าทำกำไร

AOTZ17     ATO      55.00

TOPZ17     ATO      97.00

 

KS Daily Portfolio

วันนี้ให้ซื้อ PSH ที่ระดับเปิด (ATO) ทำให้ KS Daily Portfolio มีหุ้นลงทุนทั้งหมด 5 ตัวคือ PSH PTTEP HMPRO SPALI TICON

 

KS Daily Portfolio Top Pick

1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาขึ้นและเงินบาทแข็งค่า

PTTEP หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงาน มีประเด็นบวกจากราคาน้ำมันที่กำลังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้ PTTEP มีกำไรทางบัญชีเพิ่มมากขึ้นจาก Deferred Tax นอกจากนั้นยังมีประเด็นการเก็งผลประกอบการในงวด 3Q60 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลประกอบการทรงตัว QoQ แต่จะดีขึ้น YoY

2. หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการเร่งลงทุนของรัฐบาลก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง

HMPRO กำลังเข้าสู่ช่วง High Season โดยคาดว่ายอดขายต่อสาขาจะขยายตัวดีขึ้น YoY เชื่อว่าผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 2560 จะฟื้นตัว YoY และ HoH และคาดกำไรสุทธิเติบโตอย่างมีนัย 17.3% YoY ในปี 2560 จากอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้น 80bp และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายหดตัวลง 30bp นอกจากนี้เราคาดกำไรสุทธิเติบโต 12.4% และ 8.3% ในปี 2561-2562

3. หุ้นที่จะได้ ประโยชน์จาก EEC

TICON ความคืบหน้าการออกร่าง พ.ร.บ. พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จะเป็นประเด็นบวกต่อ TICON ซึ่งมีพื้นที่ในโซน EEC กว่า 3 พันไร่ นอกจากนั้น TICON ยังมีประเด็นบวกที่ซ่อนอยู่จากผลประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของกลุ่มเฟรเซอร์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยังไม่ถูกสะท้อนลงไปในราคาหุ้นปัจจุบัน

4. หุ้นที่กำไรน่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาส 3 และ 4

PSH ยอดขาย 9 เดือนยังเพิ่มขึ้น 10.7% YoY และคิดเป็น 72.4% ของเป้าหมายทั้งปี สำหรับกำไรไตรมาส 3/2560 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 70.9% YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน แต่จะลดลงเล็กน้อยที่ 9.0% QoQ อย่างไรก็ตามเราคาดถึงการฟื้นตัวชัดเจนทั้งยอดขายและกำไรในไตรมาส 4/2560 จากแผนการเปิดตัวใหม่จำนวนมาก รวมถึงการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ของคอนโดมิเนียม 4 โครงการ

SPALI การเร่งเปิดตัวโครงการในครึ่งหลังของปี คาดว่าจะทำให้ยอดขายปี 2560 ไปถึงเป้าหมาย 2.7 หมื่นล้านบาทไม่ยาก (ต้นปี-ปัจจุบัน SPALI ทำยอดขายได้ 2 หมื่นล้านบาทแล้ว)เรายังคาดว่าการณ์ว่ากำไรจะเติบโตดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ในไตรมาสที่ 3 และ 4/60

 

Analyst (s)

 

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

KS Research Team

 

Kasikorn Securities PCL

 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 20 ต.ค. 2560

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday12179
mod_vvisit_counterYesterday34804
mod_vvisit_counterAll days167339757

We have: 1227 guests online
Your IP: 3.15.211.107
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 20, 2024

4252784